HERO คนกรุง ช่วยวิกฤต พิชิตภัยแล้ง

จำนวนผู้เข้าชม : 16
Tag:

     จากรายงานข่าวประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้งเข้าขั้นวิกฤต รัฐบาลออกนโยบายต่างๆ เข้าช่วยเหลือประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ คนกรุงอย่างพวกเราสามารถช่วยให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตครั้งไปนี้ไปได้ด้วยการใช้น้ำอย่างประหยัด ครับ วันนี้ผมมี  HOW TO สุดคูลลในการประหยัดน้ำมาฝาก ตามมาดูกันเลย

1. ประหยัดน้ำภายในบ้าน

ขอบคุณภาพ : homebase.co.uk

ห้องน้ำ
1. ปิดก๊อก/วาล์วน้ำ ขณะแปรงฟัน โกนหนวด ล้างมือ ล้างจาน และปิดฝักบัวขณะถูสบู่ 

  • หาวาล์วน้ำแบบหมุนที่ใช้สำหรับติดด้านหลังหัวฝักบัว เพื่อให้อุณหภูมิน้ำยังคงอุ่นเหมือนกับที่ตั้งไว้ในขณะที่ปิดน้ำ
  • รองน้ำเย็นที่ไหลออกมาจากก๊อก วาล์วน้ำ หรือฝักบัว ในขณะที่รอให้น้ำอุ่น นำไปใช้รดต้นไม้หรือเทใส่ถังพักน้ำบนโถส้วมหลังจากกดชักโครก
  • รองน้ำให้เต็มแก้วระหว่างแปรงฟัน เพื่อที่จะมีน้ำไว้บ้วนปากกับล้างแปรงโดยไม่ต้องเปิดน้ำอีก

 

ขอบคุณภาพ : coburgdentalgroup.com.au
 

2. ตรวจสอบระบบประปาว่ามีรอยรั่วหรือไม่ โดยเฉพาะโถส้วมและก๊อกน้ำ ซ่อมแซมทุกสิ่งที่พบว่ามีรอยรั่วซึม รู้หรือไม่ว่าน้ำที่รั่วจากโถส้วมโดยที่ไม่ทันได้สังเกตนี่ไหลทิ้งไปตั้งแต่ 100 ถึง 2000 ลิตรต่อวันเลยนะครับ!
 
3. ติดตั้งหัวฝักบัวและก๊อกแบบประหยัดน้ำ (Low-flow) หรือปากกรองก๊อกน้ำ อุปกรณ์ประหยัดน้ำมีราคาไม่แพง (100-300 บาทสำหรับหัวฝักบัว และไม่ถึง 100 บาทสำหรับปากกรองก๊อก) อุปกรณ์ที่ใหม่และดีจะช่วยให้ใช้น้ำเพียงครึ่งหนึ่งของอุปกรณ์แบบธรรมดา
 
4. อาบน้ำให้เร็วกว่าเดิม นำอุปกรณ์จับเวลา หรือนาฬิกาจับเวลาเข้าไปในห้องน้ำด้วย และแข่งกับตนเองเพื่อลดเวลาในการอาบน้ำ หรือลองเปิดเพลงตอนอยู่ในห้องน้ำแล้วก็ท้าทายโดยการลดจำนวนเพลงที่เปิดก็ได้ 
 
ขอบคุณภาพ : remaja.my
 
  • อาบน้ำด้วยฝักบัวแทนการแช่น้ำในอ่าง การแช่น้ำในอ่างจะใช้น้ำมากถึง 100 ลิตร ดังนั้น การอาบน้ำด้วยฝักบัวจะใช้น้ำไม่ถึงหนึ่งในสามของปริมาณการแช่น้ำในอ่าง
  • ติดตั้งวาล์วที่มีขนาดพอดีกับด้านหลังหัวฝักบัว เปิดน้ำสักพักจนตัวเปียก จากนั้นก็ใช้วาล์วตัวนี้ปิดน้ำ เพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิของน้ำให้คงที่ในขณะที่ฟอกสบู่ เสร็จแล้วก็เปิดน้ำอีกครั้งเพื่อล้างตัว
5. นำน้ำที่เหลือทิ้งหรือน้ำที่ใช้แล้วจากการอาบน้ำ ซักผ้า หรือจากการล้างจาน มาใช้รดน้ำในสวน 
 
ขอบคุณภาพ : burpee.com
 
  • ไม่ควรใช้น้ำจากการอาบน้ำไปรดพืชที่ใช้ทานเพราะมีความเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อ
  • น้ำที่ใช้แล้วจากการอาบน้ำควรจะต้องนำมาผ่าน "การกรอง" เสมอ
  • รองน้ำไว้ใช้ทุกครั้งที่คุณเปิดน้ำทิ้งเพื่อรอให้ถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ 
  • หากรองน้ำเอาไว้ (เช่น ตอนที่รอปรับน้ำให้อุ่น) สามารถนำน้ำไปใช้ซักผ้าที่ต้องซักมือได้
  • ใช้สบู่และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่เป็นอันตรายต่อต้นไม้ หากต้องการเก็บไว้ใช้ในการทำสวน
  • หากไม่แน่ใจว่าน้ำที่ใช้เหมาะกับการนำไปใช้รดน้ำต้นไม้หรือไม่ ก็สามารถนำน้ำนี้ไว้ใช้กดชักโครกได้ 
     
6. ปรับให้โถส้วมใช้ระบบประหยัดน้ำ โดยใส่ขวดน้ำพลาสติกลงในถังเก็บน้ำเพื่อแทนที่น้ำที่ใช้ในการกดแต่ละครั้ง หรือใช้ก้อนกรวด/ทรายถ่วงขวดให้หนักหากจำเป็น และอย่าลืมปิดฝาขวดให้สนิท
 
7. ใช้โถส้วมชนิดที่มีให้เลือกกดได้สองระบบ (Dual-flush) คือโถส้วมที่สามารถกดชักโครกโดยใช้น้ำน้อยเวลาถ่ายเบา และใช้น้ำเยอะเวลาถ่ายหนัก ซึ่งจะช่วยประหยัดน้ำได้ 
 
8. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้งานโถส้วมอย่างเหมาะสม และห้ามใช้โถส้วมเป็นถังขยะ เพราะทุกครั้งที่กดชักโครก ต้องใช้น้ำสะอาดมากถึง 9 ลิตร เป็นการสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น
 
อุปกรณ์ต่างๆ
 
1. เปลี่ยนเครื่องซักผ้าเป็นเครื่องซักผ้าประสิทธิภาพสูง เนื่องจากเครื่องซักผ้ารุ่นเก่าแบบมีฝาบนจะใช้น้ำ 150 ถึง 170 ลิตร /ถัง เฉลี่ยครอบครัวที่มีสมาชิก 4 คน จะซักผ้า 300 ถัง/ปี เครื่องซักผ้าประสิทธิภาพสูงแบบฝาหน้าจะใช้น้ำเพียง 50 ถึง 100 ลิตร/ถัง จะช่วยประหยัดได้ 11,400 ถึง 34,000 ลิตร/ปี
 
2. ซักผ้าและล้างจานให้เต็มถัง รอจนกว่าจะมีผ้าเต็มถังก่อนทำการซัก และอย่าลืมใช้โหมดประหยัดพลังงาน เพราะจะช่วยให้ประหยัดทั้งน้ำและไฟฟ้า ทำเช่นนี้กับเครื่องล้างจานด้วย 
 
ขอบคุณภาพ : goodhousekeeping.com
 
  • อย่าล้างจานหากยังไม่ได้ทิ้งเศษอาหาร 
  • เครื่องล้างจานรุ่นใหม่ที่ประสิทธิภาพดี สามารถช่วยประหยัดน้ำได้ เมื่อเทียบกับการล้างด้วยมือ เนื่องจากจะฉีดน้ำเดิมหมุนเวียนอยู่ในถัง 
  • เลือกเครื่องซักผ้าเครื่องถัดไปเป็นแบบฝาหน้าเพราะจะใช้น้ำน้อยกว่าแบบฝาบน
  • ใช้น้ำยาซักผ้าที่ล้างให้สะอาดได้ง่าย
     
3. ซักผ้าให้น้อยครั้ง โดยใช้ผ้าให้น้อยลง
 
ขอบคุณภาพ : consumerreports.org
 
  • แขวนผ้าขนหนูบนราวตากผ้าเพื่อให้ลมพัดให้แห้งหลังจากที่อาบน้ำ เพื่อให้ใช้ผ้าขนหนูได้หลายๆ ครั้งระหว่างการซักแต่ละครั้ง
  • สวมเสื้อผ้ามากกว่าหนึ่งครั้ง เช่น สวมชุดนอนตัวเดิมซ้ำกันสองสามคืน
  • อย่าเปลี่ยนเสื้อผ้าระหว่างวัน หากต้องทำกิจกรรมที่สกปรกเลอะเทอะ เช่น ทาสี ทำสวน หรือออกกำลังกาย ควรเตรียมชุดเก่าๆ ไว้เพื่อวัตถุประสงค์นั้นโดยเฉพาะ แล้วใส่ชุดนั้นซ้ำๆ กัน ก่อนนำไปซัก โดยควรจัดเวลาให้กิจกรรมนี้อยู่ก่อนหน้าเวลาอาบน้ำ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องใช้เสื้อผ้าอีกชุดหรืออาบน้ำอีกรอบ
     
2. ประหยัดน้ำนอกบ้าน
 
ระบบประปา
1. ติดตั้งมาตรวัดน้ำ เมื่อติดตั้งมาตรวัดปริมาณน้ำแล้ว จะสามารถรู้และลดการบริโภคน้ำได้
 
ขอบคุณภาพ : pantip.com
  • หากมีมาตรวัดน้ำอยู่แล้ว ให้เรียนรู้วิธีการอ่านมาตรวัด เนื่องจากอุปกรณ์นี้จะมีประโยชน์มากในการตรวจหารอยรั่ว 
  • มาตรวัดน้ำหลายชนิดจะมีวงล้อหรือเฟืองเล็กๆ ที่จะหมุนอย่างรวดเร็วหากมีน้ำไหล ถ้าแน่ใจว่าได้ปิดน้ำทั้งหมดแล้วและเห็นว่าวงล้อนี้ยังหมุนอยู่ แสดงว่ามีรอยรั่วเกิดขึ้น
2. จับเวลาการใช้น้ำ ติดอุปกรณ์จับเวลาบนเครื่องฉีดน้ำสนามหญ้าและก๊อก/วาล์วน้ำนอกบ้าน หรือติดตั้งเครื่องจับเวลาที่ตั้งโปรแกรมเองได้บนเครื่องฉีดน้ำบนสนามหญ้าหรือระบบน้ำหยด
  • รู้วิธีการปรับแต่งการตั้งค่าอุปกรณ์จับเวลาเครื่องฉีดน้ำและระบบการให้น้ำในแต่ละฤดูกาล เช่น รดน้ำน้อยหรือไม่รดเลยในช่วงที่อากาศเย็นชื้น
  • ดูแลรักษาหรือซ่อมแซมเครื่องฉีดน้ำและระบบการให้น้ำ และตรวจสอบให้แน่ใจว่ารูปแบบการฉีดน้ำเป็นไปตามทิศทางที่ต้องการ
สระว่ายน้ำและสนามหญ้า
 
ขอบคุณภาพ : Wikipedia
 
1. คลุมสระว่ายน้ำ เพื่อช่วยป้องกันการระเหยของน้ำ
 
2. ห้ามใช้สายยางล้างถนนหรือทางเดิน ควรใช้ไม่กวาดหรือคราด หรือเครื่องเป่าใบไม้ในการกำจัดวัตถุแห้งๆ แล้วปล่อยให้ฝนจัดการที่เหลือเอง 
 
3. ดูแลรักษาสนามหญ้า ด้วยวิธีที่ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รดน้ำเท่าที่จำเป็น และรดเมื่อฝนตกไม่เพียงพอเท่านั้น ใช้สายยางแบบปืนฉีดหรือใช้บัวรดน้ำเพื่อประหยัดน้ำ หรือสามารถเก็บน้ำฝนนำมาใช้รดน้ำต้นไม้ สนามหญ้า หรือสวน
  • รดน้ำในสวนและสนามหญ้าตอนกลางคืน จะช่วยให้น้ำมีเวลาซึมลงไปในดินโดยไม่ระเหยเป็นไอน้ำจากความร้อนในตอนกลางวัน
  • รดน้ำ “ช้าๆ” โดยให้น้ำแบบระบบน้ำหยด (Drip irrigation) หรือใช้เครื่องฉีดน้ำแบบพ่นฝอย (Micro sprinklers) 
4. ปลูกหญ้าอย่างเหมาะสม อย่าตัดหญ้าในสนามจนสั้นเกินไป จะทำให้ใช้น้ำน้อยลง หรือไม่ปลูกหญ้าเลย หรือลดขนาดสนามลง เนื่องจากสนามหญ้าต้องใช้น้ำ ในปริมาณมากเมื่อเทียบกับการปลูกต้นไม้และพืชคลุมดินชนิดอื่น
 
ในสวน
 
ขอบคุณภาพ : wildcottoninteriors.com
 
1. ปลูกพืชอย่างเหมาะสม ปลูกพืชขนาดเล็กใต้ต้นไม้ที่สูงใหญ่ จะช่วยป้องกันการระเหยของน้ำและให้ร่มเงาแก่ต้นไม้
  • รู้ปริมาณน้ำที่พืชต้องการ และไม่ควรให้น้ำเกินปริมาณที่จำเป็น
  • ปลูกพืชที่ต้องการน้ำในปริมาณเท่ากันๆ ไว้ด้วยกัน เพื่อให้สามารถรดน้ำได้อย่างเหมาะสมพร้อมๆ กัน
2. ใช้วัสดุคลุมดินเพื่อกักเก็บความชื้น เช่น ฟาง ปุ๋ยคอก ใบไม้ เศษไม้ เปลือกไม้ และกระดาษหนังสือพิมพ์ 
 
3. หากรดน้ำแบบเปิด/ปิดด้วยตนเอง ควรอยู่กับสายยางตลอดเวลาที่รดน้ำ
 
4. อย่ารดน้ำเกินควร และอย่ารดน้ำเร็วกว่าระยะเวลาการดูดซึมน้ำของดิน 
 
5. รดน้ำให้ชุ่ม แต่ไม่บ่อย จะทำให้ต้นไม้ต้องการน้ำน้อยลง
 
โรงจอดรถ
 
ล้างรถบนสนามหญ้า ใช้สายยางแบบปืนฉีด/ถังน้ำ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรถยนต์แบบสเปรย์ที่เช็ดออกได้โดยไม่ใช้น้ำ แต่ราคาค่อนข้างแพง


ขอบคุณภาพ : unadonna.it
 
  • ไม่ต้องล้างรถบ่อยนัก ฝุ่นและดินที่เจออยู่ทุกวันจะไม่ทำให้เกิดอันตรายถ้าปล่อยให้เกาะไว้สักช่วงหนึ่ง
  • ล้างรถที่ศูนย์ทำความสะอาดรถ เพราะที่นี่อาจใช้น้ำน้อยกว่าที่ใช้ที่บ้าน และมีการเก็บหรือกรองน้ำที่ใช้แล้วอย่างเหมาะสม
  • ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม เพราะน้ำยาประเภทนี้จะทำให้นำน้ำที่ใช้แล้วจากการล้างรถมาใช้รดบนสนามหญ้าหรือสวนได้
     

3. ประหยัดน้ำวิธีอื่นๆ ด้วยการในการเลือกสิ่งของที่ใช้น้ำปริมาณน้อยที่สุด
 


ขอบคุณภาพ : soccajoeys.com.au
 

1. ดื่มน้ำเปล่า เนื่องจากเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น ไวน์ ชา น้ำอัดลม น้ำผลไม้ จะต้องใช้น้ำในกระบวนการผลิตอีก
 
2. ลดปริมาณอาหารแปรรูป เพราะขั้นตอนต่างๆ ที่ใช้ในการแปรรูปต้องใช้น้ำในการผลิต
 
3. ลดปริมาณสิ่งของที่ซื้อ ใช้หลัก 3R ได้แก่ Reduce (ลด), Reuse (ใช้ซ้ำ), Recycle (นำกลับมาใช้ใหม่) ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ซ้ำๆ ได้ เช่น จานทั่วไป แทนการใช้จานกระดาษ หรือบรรจุภัณฑ์อื่นที่ใช้ซ้ำๆ กันได้แทนการใช้ถุงพลาสติก
 
เคล็ดลับเพิ่มเติม
  • กำจัดวัตถุอันตราย ซึ่งได้แก่ อุปกรณ์ทำความสะอาด น้ำมันเครื่อง หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ แบตเตอรี่ ยาฆ่าแมลง และปุ๋ย อย่างเหมาะสม แม้ว่าจะไม่เป็นการประหยัดน้ำโดยตรง แต่การรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของแหล่งน้ำที่มีอยู่ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ
  • ให้ความรู้และขอความร่วมมือจากสมาชิกในครอบครัวเพื่อประหยัดน้ำ
  • น้ำที่ไหลออกมาจากเครื่องซักผ้าสามารถนำไปใช้ในการล้างรถได้ ส่วนน้ำที่เหลือใช้จากการล้างผักผลไม้ก็สามารถนำไปใช้รดน้ำต้นไม้ได้เช่นกัน
  • สำหรับการรองน้ำเก็บไว้อย่างง่ายๆ ให้ฉีดน้ำที่ไหลจากฝักบัวลงในถังพลาสติกหรือเหยือกน้ำในขณะที่รอให้น้ำอุ่น
  • ใช้น้ำฝนเพื่อการบริโภคขั้นสอง จัดการทำระบบรองรับน้ำฝนไว้ใช้ในฤดูแล้ง

 

คำเตือน

  • ถ้าคุณเลือกที่จะเก็บน้ำใช้แล้วไว้ใช้ในสวน ควรแน่ใจว่าสบู่หรือน้ำยาทำความสะอาดที่คุณใช้นั้นปลอดภัยต่อต้นไม้ และห้ามใช้น้ำที่เหลือใช้กับพืชผักสวนครัว
  • ถ้าคุณกำลังรองน้ำฝนไว้ใช้ อย่าลืมหาวิธีป้องกันยุงมาวางไข่ให้กับระบบกักเก็บน้ำด้วย

 

เลือกซื้อ ประกันรถยนต์ ประกันรถยนต์ชั้น 1 จากทิพยประกันภัยง่ายๆ คลิกเลย!!

ประกันภัยรถยนต์ ออนไลน์

 

ปล. กดติดตาม เพจ ทิพยประกันภัย แล้วคุณจะไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียล อินทุกกระแส ครับ