ผลกระทบจาก “อัตราภาษีรถยนต์ ปี 2559” เรื่องควรรู้สำหรับคนที่กำลังจะซื้อรถใหม่
จำนวนผู้เข้าชม : 3522

เนื่องจากในปี 2559 จะมีการเริ่มใช้อัตราภาษีสรรพสามิตรรถยนต์ใหม่ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการยานยนต์ของไทย จากเดิมที่จะคิดตามขนาดเครื่องยนต์และจำนวนแรงม้า โดยจะเปลี่ยนไปคิดจากองค์ประกอบ 3 ส่วน ได้แก่
1. ขนาดเครื่องยนต์ (CC)
2. ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่ปล่อยออกมา
3. ปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้
ทั้งนี้การเก็บภาษีรถยนต์แบบใหม่ เป็นการกระตุ้นให้ค่ายรถยนต์ต่างๆ ผลิตรถยนต์โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น มีการใช้เชื้อเพลิงอย่างประหยัด และลดการปล่อยมลพิษให้น้อยลง แต่จะทำให้ราคาขายรถยนต์ใหม่ของค่ายต่างๆในปีหน้าจะมีราคาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนค่าภาษีที่จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3-10%
เรามาดูกันครับว่า รถยนต์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ที่จะออกขายในปีหน้า ได้รับผลกระทบจากอัตราภาษีใหม่อย่างไรบ้าง
1. รถยนต์นั่ง (เครื่องยนต์ไม่เกิน 3,000 CC)
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 30% (เดิมจัดเก็บภาษี 25%)
- ปล่อยก๊าซ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 35% (เดิมจัดเก็บภาษี 25%)
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 40% (เดิมจัดเก็บภาษี 30%)
เช่น Toyota Vios
Toyota Altis
Toyota Camry
Chevrolet Sonic
Ford Fiesta
และรุ่นอื่นๆ
2. รถยนต์นั่ง ประเภท E85 (เครื่องยนต์ไม่เกิน 3,000 CC)
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 25% (เดิมจัดเก็บภาษี 25%)
- ปล่อยก๊าซ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 30% (เดิมจัดเก็บภาษี 25%)
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 35% (เดิมจัดเก็บภาษี 30%)
เช่น Honda Jazz
Honda City
Honda Civic
Toyota Altis (1,800 CC)
Mazda 3
Chevrolet Cruze
และรุ่นอื่นๆ
3. รถยนต์แบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและพลังงานไฟฟ้า (เครื่องยนต์ไม่เกิน 3,000 CC) (เดิมจัดเก็บภาษี 10%)
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 10%
- ปล่อยก๊าซเกิน 100-150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 20%
- ปล่อยก๊าซเกิน 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 25%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 30%
ได้แก่ Toyota Prius
Honda Accord Hybride
และรุ่นอื่นๆ
4. รถยนต์ Eco Car (เดิมจัดเก็บภาษี 10%)
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร และใช้น้ำมัน E85 ได้ จัดเก็บภาษี 12%
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 14%
- ปล่อยก๊าซเกิน 100-120 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 17%
5. รถยนต์กระบะที่ไม่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ (เครื่องยนต์ไม่เกิน 3,250 CC) (เดิมจัดเก็บภาษี 3%)
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 3%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 5%
ได้แก่ Toyota Revo
Izusu D-max
Ford Ranger
และรุ่นอื่นๆ
6. รถยนต์กระบะที่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ (เครื่องยนต์ไม่เกิน 3,250 CC) (เดิมจัดเก็บภาษี 3%)
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 5%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 7%
ได้แก่ Toyota Revo (Single Cab)
Izusu D-max (Spacecab)
และรุ่นอื่นๆ
7. รถกระบะ 4 ประตู (เครื่องยนต์ไม่เกิน 3,250 CC) (เดิมจัดเก็บภาษี 12%)
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 12%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 15%
ได้แก่ Toyota Revo (Double Cab)
Ford Ranger (Double Cab)
และรุ่นอื่นๆ
8. รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก PPV (เครื่องยนต์ไม่เกิน 3,250 CC) (เดิมจัดเก็บภาษี 20%)
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 25%
- ปล่อยก๊าซฯเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 30%
ได้แก่ Izusu Mu-X
Mitsubishi Pajero
และรุ่นอื่นๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ motorexpo.co.th และ bohnha.com
"ขับรถยนต์อย่างอุ่นใจให้ทิพยประกันภัยเป็นเพื่อนร่วมทางด้วยนะครับ"
เลือกซื้อ ประกันรถยนต์ ประกันรถยนต์ชั้น 1จากทิพยประกันภัยง่ายๆ คลิกเลย!!
หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่