ตรวจสอบสภาพรถหลังเดินทางไกล

     ในการขับรถทางไกลนั้น แน่นอนว่าต้องมีการใช้งานรถยนต์ที่หนักพอสมควรอยู่ รถยนต์อาจเกิดการเสื่อม สึกหรอ และเสียหายได้ หากเราไม่ตรวจสอบสิ่งต่างๆเหล่านี้ ถ้าเกิดปัญหาแล้วปล่อยผ่านไป อาจเสียเงินมากกว่าที่ควรจะเสียก็เป็นได้ ดังนั้นควรตรวจสอบสภาพรถ ดังนี้

1. ตรวจสอบน้ำมันเครื่อง

     หมั่นเช็คน้ำมันเครื่องอยู่เสมอ เพราะน้ำมันเครื่องมีผลโดยตรงต่อเครื่องยนต์รถ หน้าที่หลักของน้ำมันเครื่องคือช่วยป้องกันการเสียดสี  ช่วยระบายความร้อน และป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ หากน้ำมันเครื่องแห้ง หรือลดลงกว่าระดับที่ควรจะเป็นก็อาจทำให้เกิดปัญหาต่อเครื่องยนต์ได้

2. ตรวจสภาพและลมยาง

     ในการเดินทางไกลนั้นสภาพของยางอาจสึกหรอ ลมอาจรั่วซึมออก ทำให้ระดับลมยางที่อยู่ลดลง ย่อมส่งผลต่อสมรรถนะในการขับเคลื่อนของรถยนต์และความปลอดภัยในการขับขี่ได้ หลังเสร็จสิ้นจากการเดิน ทางควรเช็คและเติมให้อยู่ในระดับมาตราฐานของรถยนต์รุ่นนั้นๆทันที

3. ตรวจสอบช่วงล่าง

     ระหว่างการขับขี่นั้นอาจเจอถนนขรุขระมีปัญหา และขับตกหลุมเล็กบ้างใหญ่บ้าง ทำให้เกิดปัญหาของช่วงล่างตามมาเช่นศูนย์ล้อเพี้ยน ทำให้พวงมาลัยควบคุมได้ยาก ควรรีบนำรถเข้าศูนย์ซ่อมมาตราฐานเพื่อตรวจเช็คและตั้งศูนย์ใหม่ทันทีหลังใช้งาน

4. ตรวจไส้กรองอากาศ

     ไส้กรองอากาศรถยนต์ มีความสำคัญและคอยทำหน้าที่  ดักฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปในเครื่องยนต์  เมื่อรถมีอายุการใช้งานมานาน อาจทำให้เกิดอาการอุดตัน  ทำให้อากาศดีเข้าไปในห้องโดยสารได้น้อยลง  และยังทำให้การเผาไหม้เครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์อีกด้วย   หากขับขี่รถในบริเวณที่มีฝุ่นมากเป็นประจำ  ก็จะเกิดอาการที่เครื่องยนต์

 5. ตรวจสภาพตัวถัง

     ควรล้างรถทุกครั้งหลังการเดินทาง เพราะรถของคุณอาจจะผ่านสภาวะอากาศและสภาพแวดล้อมที่สกปรกมาพอสมควร ซึ่งจะส่งผลต่อสีรถยนต์ของคุณได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิ่งบนนถนนลาดยางมะตอย หรือกำลังซ่อมปรับปรุง จะทำให้มียางมะตอยมาติดที่ตัวถังเราได้ หากปล่อยไว้นานๆ จะขัดออกได้ยาก 

 

เลือกซื้อ ประกันรถยนต์ ประกันรถยนต์ชั้น 1จากทิพยประกันภัยง่ายๆ คลิกเลย!!

ประกันภัยรถยนต์ ออนไลน์

ปล. กดติดตาม เพจ ทิพยประกันภัย แล้วคุณจะไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียว อินทุกกระแส ครับ