ประกันชั้น 3 คืออะไร ทำไมจึงควรทำเอาไว้เมื่อมีรถยนต์

               ผู้ขับขี่รถยนต์ต่างทราบกันดีว่า นอกจาก พ.ร.บ. รถยนต์ที่เป็นประกันภาคบังคับแล้ว ยังมีประกันภาคสมัครใจแบบอื่นๆ ให้เลือกซื้อจากบริษัทประกันภัยด้วย หลายคนคงสนใจประกันชั้น 3 เนื่องจากมีเบี้ยประกันที่ถูกที่สุดถ้าเทียบกับประกันชั้นอื่นๆ แต่ก็คงมีคำถามอีกเช่นกันว่า ในเมื่อเบี้ยประกันถูกที่สุดแล้ว ความคุ้มครองจะครอบคลุมแค่ไหน และควรทำเอาไว้หรือไม่ หรือแค่ พ.ร.บ. รถยนต์ก็เพียงพอแล้ว ข้อมูลต่อไปนี้จะช่วยให้ตอบข้อข้องใจของคุณ ให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ประกันภัยรถยนต์ คืออะไร

               ประกันภัยรถยนต์ คือหลักประกันที่คุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ยวดยานพาหนะ ซึ่งเป็นประกันภัยรถยนต์ที่ผู้ขับขี่รถยนต์เลือกทำกับบริษัทประกันภัยแต่ละแห่งตามความสมัครใจ หรือที่เรียกกันว่า ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ นอกเหนือจากประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. รถยนต์ ที่ทางกฎหมายกำหนดให้ต้องทำทุกๆ ปี ซึ่งประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจนี้เอง ที่เราจะเลือกได้ว่าจะทำประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2  หรือประกันชั้น 3 นอกจากนั้นยังมีประกันชั้น 2+ และประกันชั้น 3+ ให้เลือกตามความพอใจและกำลังทรัพย์อีกด้วย

ความแตกต่างของ พ.ร.บ. รถยนต์ กับประกันภัยรถยนต์

               แม้จะเหมือนกันในด้านคุ้มครองผู้ขับขี่รถยนต์ที่ทำประกัน แต่ในส่วนรายละเอียดแล้ว พ.ร.บ. รถยนต์กับประกันภัยรถยนต์จะมีความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ดังนี้

               พ.ร.บ. รถยนต์ : จะเน้นคุ้มครอง “คน” แต่ไม่คุ้มครอง “ทรัพย์สิน” หมายความว่าหากเกิดอุบัติเหตุ จะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาล และค่าสินไหมทดแทนได้เฉพาะต่อบุคคล แต่ไม่สามารถเรียกร้องค่าซ่อมรถได้นั่นเอง

               ประกันภัยรถยนต์ : จะมีความหลากหลายกว่า พ.ร.บ. รถยนต์ โดยมีความคุ้มครองตั้งแต่ตัวบุคคลไปจนถึงทรัพย์สินทั้งของตนเองและของคู่กรณี มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามเงื่อนไขของกรมธรรม์นั้นๆ เช่น ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+, ประกันชั้น 2, ประกันชั้น 3+, ประกันชั้น 3 ซึ่งมีความคุ้มครองแตกต่างกัน และได้รับวงเงินแตกต่างกัน

ประกันชั้น 3 คืออะไร

               ประกันชั้น 3 หรือประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 เป็นประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเช่นเดียวกับประกันชั้นอื่นๆ ซึ่งทางกฎหมายอนุญาตให้ทำเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความคุ้มครองได้ โดยประกันชั้น 3 นั้นจะมีราคาเบี้ยประกันที่ต่ำที่สุด และให้ความคุ้มครองน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับประกันชั้น 1 และประกันชั้น 2

ประกันชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง

               ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ประกันภัยชั้น 3 เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองน้อยที่สุดและเบี้ยประกันถูกที่สุด จึงเหมาะสำหรับผู้มีงบน้อยที่ต้องการเพิ่มความคุ้มครองนอกจาก พ.ร.บ. รถยนต์ โดยตัวประกันชั้น 3 นั้นจะเน้นรับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย ของผู้ขับขี่ บุคคลภายนอก และผู้โดยสาร และรับผิดชอบต่อทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น ในกรณีผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด

               หากอธิบายเพิ่มเติมก็คือ ประชั้น 3 จะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคน ตั้งแต่ตัวผู้ขับขี่เอง ผู้โดยสาร รวมถึงบุคคลภายนอก ทั้งชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน หรือก็คือรถของคู่กรณีนั่นเอง หากเกิดการเฉี่ยวชนขึ้นมา สามารถเบิกจ่ายค่าเสียหายให้แก่คู่กรณีได้โดยที่ผู้เอาประกันไม่ต้องออกเงินรับผิดชอบตรงส่วนนี้

               แต่ต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติมด้วยว่า ประกันชั้น 3 จ่ายให้แค่คู่กรณีเท่านั้น ไม่ได้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ของเราเองแต่อย่างใด

 ทำไมจึงควรทำประกันชั้น 3 เพิ่มนอกเหนือจาก พ.ร.บ. รถยนต์

               สำหรับ พ.ร.บ. รถยนต์นั้น จะเน้นคุ้มครอง “คน” แต่ไม่คุ้มครอง “ทรัพย์สิน” นั่นคือจะคุ้มครองทั้งผู้ขับขี่และคู่กรณี แต่จะไม่จ่ายค่าซ่อมรถให้นั่นเอง ดังนั้นถ้าหากทำประกันชั้น 3 เอาไว้เพิ่มเติม ก็จะมีความคุ้มครองในส่วนชดเชยค่าเสียหายที่เกิดกับทรัพย์สินของบุคคลภายนอกมาเพิ่มด้วย ทำให้เราไม่ต้องเสียเงินตรงส่วนนี้หากเกิดไปเฉี่ยวชนรถของผู้อื่น เพราะประกันชั้น 3 จะจ่ายค่าซ่อมแซมให้แก่คู่กรณีเอง

ประกันชั้น 3 เหมาะกับใคร

            เพราะประกันชั้น 3 นั้นจะคุ้มครองค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเบี้ยประกันเองมีราคาไม่สูง กระนั้นก็เหมาะสำหรับรถยนต์คันที่ไม่ค่อยได้นำออกมาใช้งาน ใช้งานไม่ค่อยบ่อย มีโอกาสเฉี่ยวชนน้อย หรือเฉี่ยวชนก็อาจไม่เสียดายค่าซ่อมแซมมากนัก การซื้อประกันชั้น 3 ติดเอาไว้เมื่อนำรถดังกล่าวออกไปใช้งานแล้วเกิดอุบัติเหตุไปชนกับคนอื่นขึ้นมา ก็จะได้รับความคุ้มครองบางส่วนที่ช่วยแบ่งเบาค่าเสียหายที่ต้องจ่ายให้คู่กรณีลงได้ประมาณหนึ่ง

               แม้คุ้มครองไม่มาก แต่เบี้ยประกันก็มีราคาประหยัด อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายเมื่ออุบัติเหตุได้อีกด้วย

กรณีไหนที่สามารถเบิกค่าซ่อมแซมรถยนต์จากประกันชั้น 3 ได้

               สำหรับประกันชั้น 3 นั้นจะช่วยจ่ายค่าซ่อมรถก็จริง แต่จ่ายให้เฉพาะคู่กรณีเมื่อผู้เอาประกันไปเฉี่ยวชนเท่านั้น

               นั่นหมายความว่า คู่กรณีสามารถเคลมประกันจากคุณได้ หากคุณเป็นฝ่ายผิด แต่ถ้าหากรถยนต์ของคุณเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในเคสนั้น คุณจะไม่สามารถเคลมค่าซ่อมจากประกันได้ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดนั่นเอง ซึ่งตรงนี้จะต่างจากประกันชั้น 3+ ที่จะคุ้มครองรถคันเอาประกันด้วย

               แต่ถึงอย่างนั้น มีประกันชั้น 3 ติดเอาไว้ก็ยังดีกว่าไม่มีเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน

               หากสนใจรายละเอียดเกี่ยวกับประกันชั้น 3 ของ TIPINSURE เบี้ยเริ่มต้นเพียง 1,899 บาท/ปี ดูเพิ่มเติมและซื้อออนไลน์ได้เลย คลิก