อัพเดตความรู้! แท้จริงแล้วพ.ร.บ.กับภาษีอันเดียวกันไหม

          หลายคนที่อาจจะเป็นมือใหม่หัดขับ หรือยังไม่ทราบข้อมูลรายละเอียดความรู้เกี่ยวกับพ.ร.บ.กับภาษีรถยนต์ อาจจะเกิดความสับสนได้ว่าแท้จริงแล้วพ.ร.บ.กับภาษีอันเดียวกันไหม เนื่องจากมีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าพ.ร.บ.รถยนต์ คือ แผ่นแปะทรงสี่เหลี่ยมที่จะต้องมีไว้ติดกันหน้ากระจกรถ ซึ่งจริงๆ แล้วแผ่นป้ายสี่เหลี่ยมดังกล่าวมันคือป้ายภาษี!! ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องของภาษีและพ.ร.บ.รถยนต์ วันนี้เราจึงหยิบเอาประเด็นนี้ยกขึ้นมาอธิบายขยายให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจไปพร้อมกัน

ภาษีกับ พ.ร.บ. อันเดียวกันไหม

            เบื้องต้นสามารถอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า ภาษีนั้นเป็นค่าใช้ถนน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประเภทของรถยนต์ หากเป็นรถเล็ก อาทิ รถจักรยานยนต์ ราคาก็จะอยู่ที่หลักร้อย ส่วนของรถใหญ่อย่างเก๋ง หรือกะบะ ราคาภาษีก็จะอยู่ที่หลักพัน ส่วนพ.ร.บ.รถยนต์นั้นเป็นส่วนที่จะต้องมี เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์

          ดังนั้นคำถามที่ว่าภาษีรถยนต์กับพ.ร.บ.อันเดียวกันไหม จึงสามารถตอบได้เลยว่าไม่ใช่อันเดียวกัน โดยข้อมูลรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวว่าภาษีกับพ.ร.บ.รถยนต์ สามารถอธิบายแยกส่วนกันได้ ดังนี้

          ป้ายภาษีรถยนต์ คือ ป้ายภาษีที่เอาไว้ติดหน้ากระจกรถ เพื่อแสดงเป็นเสมือนหลักฐานบ่งบอกว่ารถของเราได้เสียภาษีให้กับภาครัฐถูกต้องตามกฏหมายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการเสียค่าป้ายภาษีนั้นจำเป็นจะต้องเสียทุกปี สำหรับเอกสารที่ใช้ในการต่อป้ายภาษีนั้น จะต้องมี “สมุดทะเบียนรถ” หรืออาจถ่ายสำเนาก็ได้, หางของพ.ร.บ.รถยนต์, ใบตรวจสภาพรถจาก ตรอ. เฉพาะรถที่มีอายุมากกว่า 7 ปีถึงเกณฑ์ที่ต้องตรวจเช็คสภาพ และใบตรวจสภาพแก๊ส ในรถที่มีแจ้งติดตั้ง

          ในกรณีที่ไม่ได้ต่อป้ายภาษีนานติดต่อกันมากกว่า 3 ปี จะส่งผลทำให้ถูกระงับทะเบียนรถได้ ซึ่งในเคสลักษณะนี้ ตัวเจ้าของรถก็จะต้องเสียเวลาไปจัดการจดทะเบียนภาษีใหม่อีกครั้ง เพื่อที่จะได้ป้ายภาษีเดิมกลับมา อีกทั้งอาจถูกเสียภาษีย้อนหลังอีกด้วย ดังนั้นเผื่อป้องกันปัญหาที่ยุ่งยากดังที่กล่าวมา เราทุกคนจึงจำเป็นที่จะต้องสละเวลาไปต่อพ.ร.บ.รถยนต์ให้เสร็จเรียบร้อยตามเวลา เพื่อที่จะสามารถนำเอกสารมาต่อป้ายภาษีได้

          นอกจากนี้ในระหว่างที่ไม่ได้ต่อป้ายภาษี หากโดนตรวจพบโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าของรถผู้ขับขี่ก็จะต้องถูกโทษปรับ 400 - 1,000 บาท

          สำหรับ พ.ร.บ. รถยนต์ คือ กรมธรรม์ ซึ่งจะต้องมีไว้สำหรับคุ้มครองเป็นค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆ ตลอดจนช่วยค่าปลงศพในเคสที่มีการสูญเสียชีวิต ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้บนท้องถนน ดังนั้นเรื่องของพ.ร.บ.ภาคบังคับจะไม่ทำไม่ได้ เพราะจะถือว่าผิดกฏหมาย ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจเจอว่าไม่มีพ.ร.บ. ก็จะต้องโทษเสียปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากไม่ต่อพ.ร.บ.รถยนต์ก็จะมีผลทำให้ไม่สามารถต่อป้ายภาษีประจำปีได้ นอกจากนี้ในระหว่างที่ยังไม่ต่อพ.ร.บ.รถยนต์ หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นนั้นหมายถึงเจ้าของรถจำเป็นจะต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายต่างๆ เต็มจำนวนเองอีกด้วย

          สรุปได้ว่าทั้งภาษีกับพ.ร.บ.รถยนต์มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน โดยทุกคนสามารถเดินทางไปต่อภาษีรถยนต์ด้วยตัวเองได้ที่สถานที่ ต่อไปนี้

• กรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีบริการทุกจังหวัด
• ที่ทำการไปรษณีย์
• ธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
• ห้างสรรพสินค้าที่ร่วมโครงการ
• เคาเตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ

          หรือใครไม่สะดวกเดินทางไปสถานนี้เหล่านี้ อาจชำระภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก  https://eservice.dlt.go.th/ โดยปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้

• เมื่อเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ eservice แล้ว ให้คุณลงทะเบียนสมาชิกใหม่ เพื่อขอรับรหัสผ่าน
•  เข้าสู่หน้าลงทะเบียนแล้ว ให้กรอกรายละเอียดทั้งหมด แล้วจึงกด “บันทึก”
• เมื่อได้รหัสมาแล้ว จึงนำมาเข้าสู่ระบบ กดคลิกเลือก “ชำระภาษีรถประจำปี”
  แล้วจึงคลิกต่อไปที่ “ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต”
• กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถ แล้วจึงกดลงทะเบียนรถ
• เสร็จแล้วจึงกดคลิกที่ “ยื่นภาษี” ในหน้านี้ให้คุณติ๊กช่อง ซื้อพ.ร.บ. ออนไลน์ ซึ่งคุณสามารถซื้อกับบริษัทประภัยตามที่เลือก เมื่อซื้อเสร็จแล้ว จึงกรอกรายละเอียดประกัน เลขที่กรมธรรม์ วันที่สิ้นสุด แล้วคุณจะทราบรายละเอียดที่ต้องชำระ
• เสร็จแล้วจึงกด “กรอกสถานที่จัดส่งเอกสาร” โดยให้คุณกรอกที่อยู่ เพื่อจัดส่งเอกสาร
• เสร็จแล้วจึงจะไปกดเลือกวิธีชำระเงิน ซึ่งจะหักบัญชีเงินฝากได้ ในกรณีที่คุณมีบัญชีเงินฝากและจะต้องเป็นสมาชิกบริการโอนเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ตกับธนาคาร/หน่วยงานที่เข้าร่วม หรืออาจเลือกชำระด้วยบัตรเครดิต/บัตรเดบิต ซึ่งคุณจะต้องมีบัตรเครดิต/บัตรเดบิต ที่มีสัญลักษณ์ VISA, MASTER สำหรับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสีย มีค่าจัดส่งเอกสาร รายการละ 32 บาท  ค่าธรรมเนียมธนาคาร รายการละ 20 บาท หากเลือกชำระผ่านบัตร มีค่าธรรมเนียมการใช้บัตรร้อยละ 2 รวม Vat 7%

            สำหรับใครที่ต้องการซื้อพ.ร.บ.รถยนต์ดีๆ ไว้ก่อนต่อภาษีรถยนต์ เลือกพ.ร.บ.รถยนต์กับเรา “ทิพยประกัยภัย” เพราะเพียงซื้อพ.ร.บ.ออนไลน์ง่ายๆ ก็สามารถรับกรมธรรม์ผ่านอีเมลได้เลยทันที!! คลิก