เช็คอัพเดตปี 65! ต่อใบขับขี่ออนไลน์ ต้องทำอย่างไร?

จำนวนผู้เข้าชม : 253

เช็คอัพเดตปี 65! ต่อใบขับขี่ออนไลน์ ต้องทำอย่างไร?

               ขึ้นชื่อว่ายุคโควิด-19 ไม่มีคำว่าเหมือนเดิม แม้กระทั่งการติดต่อธุระต่าง ๆ กับหน่วยงานราชการ จากเดิมต้องเดินตรงเข้าไปถึงสำนักงานเท่านั้น ปัจจุบันต้องพากันปรับตัวเข้ามาใช้โลกออนไลน์มากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่การต่อใบขับขี่ที่ดูเหมือนจะทำออนไลน์ไม่ได้ แต่ทางกรมการขนส่งทางบกก็ได้ออกประกาศให้เราสามารถต่อใบขับขี่ออนไลน์กันได้แล้วนะ

ต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2565 ทำอย่างไร?

               สำหรับการต่อใบขับขี่ในปี 2565 นี้ ขั้นตอนกว่าครึ่งจะถูกปรับให้อยู่ในรูปแบบ ‘ออนไลน์’ เช่น การอบรมออนไลน์ จองคิวเข้ามาดำเนินการ ณ กรมการขนส่งทางบก ก็ยังต้องทำการจองผ่านแอปพลิเคชัน ความยากมันอยู่ที่ความไม่คุ้นชินกับระบบต่อใบขับขี่ออนไลน์นี่แหละ หลายคนอาจจะมองว่าหลายขั้นตอน ดูยุ่งยาก บอกได้เลยว่าสะดวกกว่าที่คิด ไม่เชื่อมาทำไปพร้อม ๆ กันเลย

3 เอกสารสำคัญสำหรับทำใบขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการต่ออายุใบขับขี่แบบ 2 ปีเป็น 5 ปี หรือ 5 ปี เป็น 5 ปี เอกสารที่ต้องเตรียมจะเหมือนกันทุกอย่าง ดังนี้

  1. ใบขับขี่ใบเดิม ไม่ว่าจะเป็นใบที่กำลังจะหมดอายุ หรือใบที่หมดอายุแล้วก็จำเป็นต้องมี
  2. บัตรประชาชนตัวจริง
  3. ใบรับรองแพทย์ ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือน

สำหรับการทำใบขับขี่รถยนต์หรือต่ออายุใบขับขี่ทุกประเภทนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. 2564 เป็นต้นมา จำเป็นต้องยื่นใบรับรองแพทย์ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือนใหม่ทุกครั้ง เรียกได้ว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องอัพเดตเลย

เช็คให้ชัวร์ ใบขับขี่รถยนต์หมดอายุไปต่อหรือสอบใหม่

  • คนลอยตัว สำหรับคนที่สบายหายห่วงไม่ต้องเสียเวลาสอบใหม่ก็คือคนที่ต่อใบขับขี่ล่วงหน้านั่นเอง ซึ่งกรมการขนส่งทางบกก็ได้อัพเดตข้อมูลล่าสุดมาแล้วว่า สามารถต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้าได้ถึง 90 วัน และรับการอบรมทำใบขับขี่ออนไลน์เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
  • อบรม + สอบข้อเขียนใหม่ ใครที่ครอบครองใบขับขี่รถยนต์ที่หมดอายุไปเกินกว่า 1 ปี จะต้องอบรมใหม่ 2 ชั่วโมงพร้อมกับทดสอบข้อเขียนใหม่
  • อบรม + สอบข้อเขียน + ทดสอบขับใหม่ หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี กรณีนี้ยุ่งยากประหนึ่งทำใบขับขี่ครั้งแรก เพราะต้องอบรม 2 ชั่วโมง สอบข้อเขียน และสอบขับรถกันใหม่ทั้งหมด

ขั้นตอนต่อใบขับขี่ออนไลน์ ต้องผ่านการอบรมทุกคน

               ความแปลกใหม่อีกอย่างของการต่อใบขับขี่ออนไลน์คือ ไม่ว่าใบขับขี่ของคุณจะเป็นประเภท 2 ปี หรือ 5 ปี จะทำการต่อใบขับขี่ล่วงหน้า หรือหมดอายุมานานแล้วจำเป็นต้อง ‘อบรมทุกคน’ ดังนั้น ทำตามขั้นตอนนี้ได้เลย

  1. ทำการเข้าไปลงทะเบียนต่อใบขับขี่ออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.dlt-elearning.com โดยใส่ข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน
  2. เลือกการอบรมตามประเภทใบขับขี่รถยนต์ของคุณ โดยในเว็บไซต์จะมีทั้งหมด 4 ประเภท แบ่งออกเป็น รถส่วนบุคคล รถขนส่ง รถสาธารณะ และ รถส่วนบุคคลที่หมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป
  3. ทำแบบทดสอบก่อนอบรม และรับชมวิดีโอจนจบ (กดออกก่อนได้รับสิทธิดูใหม่อีกครั้งนะ)
  4. ทำแบบทดสอบหลังอบรม พร้อมทราบผล อย่าลืมบันทึกภาพหน้าจอเก็บไว้เป็นหลักฐาน
  5. หากผ่านการอบรม สามารถจองคิวผ่าน DLT Smart Queue เพื่อดำเนินการนัดวันและเวลาที่ต้องเข้าไปทดสอบสมรรถภาพที่กรมขนส่ง

เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมเงินจ่ายค่าใบขับขี่

               ทำการต่อใบขับขี่ออนไลน์กันมาครึ่งทาง เมื่อถึงวันและเวลาที่ทำการนัดหมายผ่านแอปฯ แล้ว ให้เข้ามาดำเนินการต่อที่กรมการขนส่งทางบกตามขั้นตอนเหล่านี้ได้เลย

  1. ยื่นเอกสารและหลักฐานให้พร้อม
  2. ทำการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
  3. ออกใบขับขี่รถยนต์ใบใหม่
  4. เสียค่าธรรมเนียมทำใบขับขี่ ตามประเภทรถ รถยนต์ 505 บาท รถจักรยานยนต์ 255 บาท

การต่อใบขับขี่ออนไลน์ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะทุกขั้นตอนที่ว่านี้สามารถทำผ่านคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ และเลือกทำในเวลาที่สะดวกได้ เพราะระบบและเว็บไซต์เขาเปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ขอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ห้ามทำธุระเหล่านี้ระหว่างขับขี่ ถึงแม้จะต่อใบขับขี่ออนไลน์แล้วก็ไม่ได้แปลว่าจะได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทางที่ดีอย่าลืมทำ พ.ร.บ. รถยนต์จาก TIPINSURE ติดไว้ เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมายังได้รับความคุ้มครอง