เส้นแบ่งทิศทางจราจรคู่แบบเส้นทึบคู่เส้นประ มีลักษณะเด่นคือการนำเส้นทึบมาตีคู่กับเส้นประ โดยความหมายของเส้นจราจรลักษณะนี้คือรถที่อยู่ฝั่งเส้นประสามารถแซงได้ แต่รถที่อยู่ในฝั่งเส้นทึบห้ามแซงเด็ดขาด สามารถพบได้ในบริเวณทางขึ้นสะพาน

สัญลักษณ์เส้นจราจรบนถนนประเภทนี้สามารถพบเจอได้ 2 แบบคือ 

• เส้นประด้านซ้าย+เส้นทึบด้านขวา 

• เส้นทึบด้านซ้าย+เส้นประด้านขวา

​6. เส้นแบ่งทิศทางจราจรคู่แบบเส้นทึบคู่กัน

              เส้นแบ่งทิศทางจราจรคู่แบบเส้นทึบคู่กัน มีลักษณะเด่นคือการนำเส้นทึบมาตีคู่ขนานกัน เพื่อเป็นสัญญาณบอกว่ารถยนต์ที่มาจากทั้ง 2 ฝั่งห้ามขับคร่อมเส้นและห้ามแซงโดยเด็ดขาด


7. เส้นแบ่งช่องเดินรถ

              เส้นแบ่งช่องเดินรถหากมองเผินจะมีลักษณะและเงื่อนไขในการใช้งานที่เหมือนกันกับเส้นแบ่งทิศจราจร แต่จะมีสีที่แตกต่างกันก็คือเส้นแบ่งช่องเดินรถจะใช้สีขาวเป็นหลัก และมีขนาดของเส้นที่แตกต่างกันเล็กน้อยดังนี้

• เส้นแบ่งช่องเดินรถปกติ ขนาด 10x100 เซนติเมตร เว้นระยะห่าง 300 เซนติเมตร

• เส้นแบ่งช่องเดินรถเตือน ขนาด 10x300 เซนติเมตร เว้นระยะห่าง 100 เซนติเมตร

• เส้นแบ่งช่องเดินรถห้ามแซง มีความกว้าง 10 เซนติเมตร

​

8. เส้นขอบทาง

              เส้นขอบทางมีลักษณะเป็นเส้นประสีขาวที่มีขนาด 10x30 เซนติเมตร เว้นระยะห่าง 60 เซนติเมตร เป็นสัญลักษณ์เส้นจราจรบนถนนที่บอกว่าให้สัญจรในช่องจราจรด้านขวาของเส้นเท่านั้น สามารถพบเส้นประเภทนี้ได้ทั่วไป

9. เส้นแนวหยุดและเส้นให้ทาง

              เส้นแนวหยุดและเส้นให้ทาง เป็นสัญลักษณ์เส้นจราจรบนถนนที่ใช้เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ได้สังเกตคนข้ามถนนได้อย่างชัดเจน โดยเส้นแนวหยุดจะมีลักษณะเป็นเส้นทึบสีขาวขีดพาดเป็นแนวขวางเพื่อช่วยเตือนให้หยุดรถก่อนถึงเส้นนี้ ส่วนเส้นให้ทางจะมีลักษณะเป็นเส้นประสีขาวขนาด 40x60 เซนติเมตร เว้นระยะ 30 เซนติเมตร เพื่อช่วยเตือนให้ชะลอรถก่อนขับผ่านจุดนี้ไป

10. เส้นเตือนก่อนถึงทางม้าลาย

              เส้นเตือนก่อนถึงทางม้าลาย คือเส้นจราจรที่มีลักษณะเส้นเป็นลายซิกแซ็ก เพื่อใช้เตือนผู้ขับขี่ให้ชะลอความเร็วในระยะ 15 เมตรก่อนจะถึงเขตทางม้าลาย ทำให้คนเดินเท้าข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย และช่วยให้ผู้ขับขี่สังเกตเห็นทางม้าลายได้ง่ายขึ้น เพราะส่วนใหญ่จะสังเกตเห็นทางม้าลายจากระยะไกลได้ยาก

เส้นสีเหลืองและเส้นสีขาวต่างกันอย่างไร

              หากผู้ที่ขับขี่รถยนต์และมอเตอร์ไซค์เป็นประจำจะสังเกตได้ว่ามีสัญลักษณ์เส้นจราจรบนถนนหลักๆ อยู่ 2 สีคือสีเหลืองและสีขาว โดยทั้งคู่จะถูกใช้ในความหมายที่แตกต่างกันออกไปคือ

• เส้นจราจรสีเหลืองใช้สำหรับการแบ่งทิศทางการจราจร

• เส้นจราจรสีขาวใช้สำหรับแบ่งช่องจราจรเดินรถในทิศทางเดียวกันและใช้เป็นเส้นกำหนดขอบทางเดินนอก

​

วิ่งทับเส้นเขตปลอดภัยและเขตห้ามหยุดมีความผิดหรือไม่

              เส้นเขตปลอดภัยและเส้นเขตห้ามหยุดทั้งคู่ล้วนมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการแบ่งพื้นที่บนถนนให้เป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน อย่างในเส้นเขตปลอดภัยถูกตีขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้รถยนต์ไปล้ำในพื้นที่ดังกล่าวอาจเว้นไว้สำหรับคนเดินเท้า หรืออาจจะเป็นเกาะกลางถนนอันตรายก็ได้ ส่วนเส้นเขตห้ามหยุดที่เป็นสีเหลืองมีจุดประสงค์ในการป้องกันไม่ให้รถยนต์หยุดทับบริเวณนั้นเพื่อไม่ให้การกีดขวางทางจราจร หากมีการฝ่าฝืนสัญลักษณ์เส้นจราจรบนถนนทั้ง 2 แบบมีความผิดตาม พ.ร.บ. จราทางบก พ.ศ. 2522 โทษฐานฝ่าฝืนเครื่องหมายบนพื้นทาง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

สรุปเกี่ยวกับสัญลักษณ์เส้นจราจรบนถนนที่ควรรู้

              การนำเส้นจราจรมาใช้เป็นสัญลักษณ์บนท้องถนนถือเป็นหลักสำคัญที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสัญจรได้อย่างมีระเบียบวินัย และทำให้เกิดความปลอดภัยทั้งตนเองและเพื่อนร่วมทาง หากผู้ขับขี่ทั้งหมดไม่เคารพต่อกฎเกณฑ์เหล่านี้ก็อาจนำไปสู่เหตุการณ์ไม่คาดคิดได้ทุกวินาทีเลยทีเดียว ดังนั้นการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดเป็นเรื่องที่คุณสามารถทำได้ไม่ยากและช่วยให้คุณเดินทางถึงจุดหมายได้อย่างราบรื่น

              ใครที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นประจำ การมองประกันรถยนต์ดีๆ ก็จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น TIPINSURE พร้อมให้บริการประกันรถยนต์ภาคสมัครใจตั้งแต่ประเภทที่ 1 ไปจนถึงประเภทที่ 3 ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ในการใช้รถสำหรับทุกคน เลือกความคุ้มครองพร้อมราคาที่ใช่ตามใจคุณ เลือกซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์กับ TIPINSURE สะดวกสบายซื้อง่าย ซื้อประกันชั้น 1 คลิก!