ขั้นตอนสอบใบขับขี่รถยนต์ 2565

จำนวนผู้เข้าชม : 20

 

 ขั้นตอนสอบใบขับขี่รถยนต์ 2565

 

          เมื่อเรากำลังเข้าสู่ยุค New Normal การใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้มากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะมีเจ้าโควิด 19 เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตแล้ว รูปแบบหลาย ๆ อย่างถูกเปลี่ยนไป แม้แต่การสอบใบขับขี่ก็ต้องถูกปรับให้เข้ากับยุคสมัยเหมือนกัน โดยกรมขนส่งทางบกกำหนดให้มีการจองคิวสอบใบขับขี่ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น  

            การสอบใบขับขี่รถยนต์  2565  มาพร้อมแบบใหม่ที่เอื้อต่อคนยุคนี้สุด ๆเพราะสามารถจองคิวใบขับขี่ออนไลน์ได้แล้ว สะดวก และรวดเร็วอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังเตรียมสอบใบขับขี่รถยนต์ ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะเรามีสรุปมาให้แล้ว รับรองว่าถึงเวลาสอบจริงผ่านฉลุย ! 

 

  • ขั้นตอนการสอบทำใบขับขี่  6 ขั้นตอน 

ขั้นตอนที่ 1 จองคิวออนไลน์

          สำหรับใครที่กำลังเตรียมสอบใบขับขี่ หรือต่อใบขับขี่ สะดวกง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยการจองคิวอบรมผ่านแอป DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th 

 

ขั้นตอนที่ 2 เตรียมเอกสารหลักฐานเพื่อขอรับใบขับขี่

1. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง

2. สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด

3. ใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน)

4. ใบรับรองการอบรม (กรณีผู้ทำการอบรมนอกขนส่ง) 

 

ขั้นตอนที่ 3 ทดสอบสมรรถภาพในวัน และเวลาตามนัดหมาย  

          หลังจากที่มีการจองคิวทำใบขับขี่ออนไลน์ และยื่นเอกสารเรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงวันและเวลาตามนัดหมายผู้เข้าสอบใบขับขี่รถยนต์ ต้องทำการทดสอบสมรรถภาพ 4 รายการ ดังนี้ 

  • ทดสอบตาบอดสี 
  • ทดสอบสายตาทางลึก
  • ทดสอบสายตาทางกว้าง
  • ทดสอบการตอบสนองของเท้า

 

ขั้นตอนที่ 4 การอบรม และสอบข้อเขียนที่สำนักงานฯ

4.1  เข้าอบรม

          การอบรมเพื่อทำใบขับขี่สำหรับผู้ที่ทำครั้งแรก ผู้เข้าอบรมต้องไปที่สำนักงาน โดยระยะเวลาในการอบรมเพื่อสอบใบขับขี่ จะใช้เวลาอย่างน้อย 5 ชั่วโมง  ชั่วโมงครึ่ง 2 ช่วง ได้แก่  ช่วงเช้า (9.30 - 12.00 น.) และช่วงบ่าย (13.00 - 15.30 น.

 

 4.2 การสอบข้อเขียน

  • สอบข้อเขียนด้วยคอมพิวเตอร์ ผ่านระบบ Electronic Examination (E-exam)
  • ข้อสอบมีจำนวน 50 ข้อ จะต้องตอบให้ถูกอย่างน้อย 90% หรือ 45 ข้อ หากไม่ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดจะต้องมาสอบใหม่ในวันถัดไป หรือไม่เกิน 90 วันหลังอบรม 

          เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก จะมอบหนังสือรวมป้ายจราจร และกฎจราจรเบื้องต้นให้อ่าน ก่อนทำการสอบ บางที่จะเป็นบอร์ดให้ยืนอ่านกัน ซึ่งในข้อสอบจะสุ่มป้ายจราจรและกฎจราจรที่เราอ่านมาเป็นข้อสอบ จำนวน 50 ข้อ เป็นข้อสอบแบบปรนัย  

 

ขั้นตอนที่ 5  การสอบใบขับขี่รถยนต์ ภาคปฏิบัติ (สำหรับผู้ที่สอบข้อเขียนผ่าน)

            การสอบภาคปฏิบัติ กรมการขนส่งกำหนดให้การสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ มีจำนวนด่านที่ต่างกันดังนี้

 

5.1  การสอบปฏิบัติสำหรับรถยนต์ จำนวน 3 ด่าน 

1. ขับรถเดินหน้าและถอยหลังในทางตรง ให้ขับรถในช่องเดินรถที่ระยะ 12 เมตร เดินหน้า 1 ครั้ง และถอยหลัง 1 ครั้ง โดยต้องไม่ขับชนหรือเบียดเสาหลัก ที่ตั้งวางเรียงกันทั้งซ้ายและขวา และอย่าให้เครื่องยนต์ดับในขณะทดสอบอยู่

2. ขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้า  ด้านซ้ายของตัวรถต้องจอดขนาน และห่างจากขอบทางไม่เกิน 25 ซม. โดยจอดให้ล้อหน้าและหลัง ล้อทับเส้นสีที่กำหนด กันชนหน้ารถต้องไม่เกินจุดหยุดรถข้างทางและห่างจากเส้นหยุดรถไม่เกิน 1 เมตร

3. ขับรถถอยเข้าซอง ให้ขับรถถอยหลังเข้าจอดและออกจากช่องว่างด้านซ้าย เปลี่ยนเกียร์ได้ไม่เกิน 7 ครั้ง ต้องไม่ชนหรือเบียดเสาในพื้นที่ที่กำหนด ตัวรถต้องขนานกับขอบทางหรือเสาหลักด้านซ้าย กระจกข้างต้องไม่ล้ำออกมาเกินเส้นที่กำหนด 

            ด่านนี้มือใหม่มักจะสอบตกมากที่สุด ควรทดสอบฝึกฝนก่อนมาสอบ สำหรับรถที่มีกล้องถอยหลังและเซ็นเซอร์ถอยหลัง จะถูกเอาเทปกาวปิดทับ เพื่อได้ใช้ทักษะการขับรถเท่านั้น

 

5.2  การสอบปฏิบัติสำหรับรถจักรยานยนต์จำนวน 5 ด่าน

  •  ขับขี่ตามป้ายจราจร
  • ขับขี่ทรงตัวบนทางแคบ
  • ขับขี่ผ่านโค้งรูปตัว Z
  • ขับขี่ผ่านโค้งรูปตัว S
  • ขับขี่ซิกแซ็กผ่านสิ่งกีดขวาง

 

ขั้นตอนที่ 6 ชำระค่าธรรมเนียมและถ่ายรูปติดบัตรใบขับขี่

            สำหรับผู้ที่สอบผ่านทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จะต้องชำระค่าธรรมเนียมและถ่ายรูปติดบัตร  มีค่าคำขอ 5 บาท, ค่าใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 250 บาท รวมทั้งสิ้น 255 บาท

            จบสำเร็จ ได้ใบขับขี่รถยนต์สมดั่งใจหมาย หากไม่ติดขั้นตอนอะไรสามารถจบทั้งหมดได้ภายในวันเดียว เคล็ดลับสำคัญคือมีใบรับรองการอบรม ที่เหลืออยู่ที่การเตรียมความพร้อมของเราเองล้วน ๆ  

 

            หลังจากสอบใบขับขี่เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะนำรถลงถนนของจริง เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและรถยนต์ที่คุณรัก อย่าลืมทำประกันรถยนต์ อย่างประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ครอบคลุมทุกการเกิดเหตุ จะรถชน รถหาย รถไฟไหม้ รถน้ำท่วม ก็ได้รับความคุ้มครอง ประกันรถยนต์ชั้น 1 จากทิพยประกันภัย เลือกได้ตามไลฟ์สไตล์การขับขี่ เริ่มต้นเพียง 4,9xx บาท/ปี เท่านั้น ลองเช็คราคาดูได้เลย คลิก

 

บทความที่เกี่ยวข้อง