ประกันชั้น 1 กับ 3 ต่างกันอย่างไร? แต่ละชั้นมีการคุ้มครองอย่างไร

จำนวนผู้เข้าชม : 206

 

เปรียบเทียบประกันชั้น 1 กับ 3 ต่างกันอย่างไร?

 

                 สำหรับคนที่พึ่งเคยซื้อประกันรถยนต์ หรืออยากเปลี่ยนเป็นประกันชั้นอื่น ๆ กำลังสงสัยอยู่ว่า ประกันแต่ละชั้นนั้นต่างกันอย่างไรบ้าง เงื่อนไข เบี้ยประกัน โปรโมชั่นประกัน และปัจจัยข้ออื่น ๆ ต่างกันหรือไม่ ประกันชั้น 1 กับ 3 ต่างกันอย่างไร? ครอบคลุมในด้านใดบ้าง และควรเลือกประกันแบบไหนให้เหมาะกับการใช้รถ บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยเหล่านี้ เพื่อให้สามารถแยกความแตกต่างของประกันในแต่ละชั้นได้ และเลือกใช้ประกันที่ตอบโจทย์มากที่สุด

 

ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง?

                 ประกันชั้น 1 ถือเป็นประกันที่มีการให้ความคุ้มครองมากที่สุด คือจะรับผิดชอบครอบคลุมทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของเรา และความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชีวิต ทรัพย์สิน และร่างกายของคู่กรณีด้วย หากเราเป็นฝ่ายผิด และยังคุ้มครองในกรณีที่รถยนต์สูญหาย และเกิดไฟไหม้ ทำให้เบี้ยประกันชั้น 1 จึงมีราคาสูงตามไปด้วยนั่นเอง

 

ประกันชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง?

                 ประกันชั้น 3 เป็นประกันที่จะให้ความรับผิดชอบเฉพาะคู่กรณี ในกรณีเมื่อเราเป็นฝ่ายผิด และจะไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของเรา ซึ่งจะให้ความคุ้มครองค่าซ่อมคู่กรณี คุ้มครองชีวิตและร่างกายของบุคคลภายนอก ไม่คุ้มครองกรณีชนที่ไม่มีคู่กรณี เช่น ชนต้นไม้ ชนเสาไฟฟ้า และยังไม่ครอบคลุมกรณีรถยนต์เกิดการสูญหาย อุบัติภัยทางธรรมชาติ และไฟไหม้ จึงทำให้ประกันชั้น 3 มีค่าเบี้ยประกันถูกกว่าประกันรถยนต์ชั้นอื่น ๆ แต่หากจะอัพเกรดเพิ่มความคุ้มครองขึ้นมาอีกระดับ ก็จะมีประกันชั้น 3 พลัส ที่จะมีการคุ้มครองเหมือนกับประกันชั้นที่ 3 ธรรมดาแต่จะเพิ่มความคุ้มครองในส่วนค่าซ่อมรถผู้ทำประกันในกรณีรถชนรถและระบุคู่กรณีได้ด้วย

 

หากมีประกันชั้น 3 แล้วเป็นฝ่ายผิดจะเป็นอย่างไร

                 ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วผู้ทำประกันเป็นฝ่ายผิด ตัวประกันชั้น 3 ก็จะมีการครอบคลุมตามเงื่อนไขคือ จะคุ้มครองความเสียหายทางด้านชีวิต ทรัพย์สินของคู่กรณี เช่น รถยนต์ ส่วนรถของผู้ทำประกันที่เป็นฝ่ายผิดจะต้องจ่ายค่าซ่อมรถ หรือค่าอื่น ๆ เอง แต่ถ้าผู้ทำประกันเกิดความเสียหายด้านร่างกายหรือชีวิต ประกันชั้น 3 จะคุ้มครองในส่วนนี้ให้

 

ประกันชั้น 1 กับ 3 ต่างกันอย่างไรบ้าง?

                 เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้ว ประกันชั้น 1 จะมีการให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมอย่างมาก คือ จะรับผิดชอบทั้งความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ของเรา และรถยนต์ของคู่กรณี รวมทั้งชีวิต  และทรัพย์สินด้วย  เบี้ยประกันจึงแพงกว่าประกันชั้น 3 

                 ประกันชั้น 3 นั้นจะให้ความคุ้มครองแค่บุคคลภายนอก หรือคู่กรณีเท่านั้น ทั้งด้านร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สิน และจะไม่ครอบคลุมกรณีรถหาย ไฟไหม้ อุบัติเหตุทางธรรมชาติ เหมือนกับประกันชั้น 1 ทำให้เบี้ยประกันนั้นมีราคาถูกกว่าประกันชั้น 1 นั่นเอง

 

 

จุดต่างที่เห็นได้ชัดของประกันชั้น 1 กับ 3

                 สรุปแล้วประกันชั้น 1 นั้นจะให้การคุ้มครองที่ครอบคลุมในทุกด้าน ทั้งเรา และทั้งคู่กรณี และยังคุ้มครองในกรณีที่ไม่คู่กรณีด้วย ส่วนประกันชั้น 3 จะเน้นไปที่การให้ความคุ้มครอง แค่คู่กรณีเท่านั้น อย่างค่าซ่อมรถ ชีวิต ทรัพย์สินของคู่กรณี

 

ประกันชั้น 1 เหมาะกับใครบ้าง ?

รถที่ควรใช้ประกันชั้น 1

                 เนื่องจากประกันชั้น 1  มีการให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุมในทุกด้าน ทำให้ประกันชั้น 1 เหมาะกับมือใหม่หัดขับ หรือรถคันใหม่ รถราคาแพง มีการใช้รถบ่อย  การเลือกใช้ประกันชั้น 1 ก็สามารถช่วยให้ขับรถได้อย่างปลอดภัยอุ่นใจมากขึ้น หากสามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันได้ ประกันชั้น 1 นั้นถือว่าน่าสนใจทีเดียว

 

ประกันชั้น 3 เหมาะกับใครบ้าง ?

รถที่ควรใช้ประกันชั้น 3
                 ประกันชั้น 3 เหมาะกับรถเก่าที่มีอายุการใช้งานนานหลายปี ผู้ขับมีประสบการณ์และความชำนาญในการขับรถอย่างดี เหมาะกับรถที่นาน ๆ ถึงจะใช้ขับ หรือ ใช้รถไม่บ่อยนัก เหมาะกับคนที่ต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกัน ไม่อยากเสียค่าเบี้ยประกันเยอะ เพราะเลือกการคุ้มครองเฉพาะส่วนที่จำเป็นก็เพียงพอ
 
 

ประกันชั้น 1 กับ 3 เลือกแบบไหนดี?

ประกันชั้น 1 กับ 3 เลือกแบบไหนดี
                 การเลือกใช้ประกัน ควรต้องพิจารณาในหลายเรื่อง ๆ อย่างไลฟ์สไตล์การขับขี่ เป็นมือใหม่หัดขับ ใช้รถบ่อย อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายก็เลือกใช้ประกันชั้น 1 หรือขับรถจนชำนาญแล้ว เป็นรถคันเก่าที่ไม่ค่อยได้ใช้ขับขี่เท่าไหร่ ก็เลือกเป็นประกันชั้น 3 ได้ แต่ก็ควรต้องพิจารณาถึงเบี้ยประกันด้วยว่า สามารถจ่ายได้ไหวหรือไม่ ซึ่งการเลือกประกันนั้นไม่ได้มีกฎตายตัว สามารถพิจารณาถึงความพร้อม หรือปัจจัยอื่น ๆ ได้ เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้รถมากที่สุด
 
 

สรุปประกันชั้น 1 กับ 3 ต่างกันอย่างไร ควรเลือกยังไง

                 จะเห็นได้ว่าประกันชั้น 1 และประกันชั้น 3 มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม ทั้งเรื่องการใช้งานรถยนต์ ประสบการณ์การใช้รถ ความชำนาญในการขับขี่ ค่าเบี้ยประกัน เงื่อนไขในการให้บริการ โปรโมชัน ส่วนลดต่างๆ ซึ่งแต่ละบริษัทประกันนั้นมีเงื่อนไขแตกต่างกันไป จึงควรสอบถามถึงรายละเอียดให้เข้าใจ เพื่อจะได้ใช้สิทธิ์ได้อย่างเต็มที่ 

                 ซึ่งการเลือกทำประกันเป็นถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์อย่างมาก เพราะช่วยให้เกิดความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น ขับรถได้อย่างสบายใจ และยังช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุได้ ไม่ว่าจะเป็นด้าน ร่างกาย ชีวิต รถยนต์ ทรัพย์สินต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2, ประกันชั้น 3 ปัจจุบันการซื้อประกันนั้นสามารถซื้อได้ง่าย ๆ หลายช่องทาง จะซื้อกับตัวแทนของบริษัทประกัน ซื้อกับบริษัทประกันโดยตรง ซื้อประกันออนไลน์ ก็สามารถทำได้ที่ TIPINSURE