ซื้อใบขับขี่ ผิดกฎหมายไหม เสี่ยงโทษอะไรบ้าง?

การขับรถบนท้องถนนเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะต้องดูแลชีวิตของตัวเองแล้ว เรายังต้องคำนึงถึงผู้ร่วมทางคนอื่นๆ ด้วย ดังนั้นการมีใบขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อแสดงว่าผู้ขับขี่ผ่านการอบรมและผ่านการทดสอบตามที่กฎหมายกำหนดมาแล้ว แต่ปัจจุบัน ยังพบว่ามีการซื้อใบขับขี่เถื่อน หรือปลอมแปลงอยู่ไม่น้อย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง นอกจากจะเสี่ยงโดนโทษทางอาญาแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อตัวเองและคนรอบข้างอีกด้วย

ซื้อใบขับขี่หรือใช้ใบขับขี่ปลอมมีโทษอย่างไร

การซื้อใบขับขี่หรือใช้ใบขับขี่ปลอม ถือเป็นการ กระทำผิดกฎหมาย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารราชการ ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี ปรับตั้งแต่ 1,000 - 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากจะมีความผิดทางกฎหมายแล้ว การซื้อใบขับขี่ยังมีความเสี่ยงอื่นๆ ตามมา เช่น

• เสี่ยงต่อการถูกโกงเงินโดยไม่ได้ใบขับขี่ หรือได้ใบขับขี่ที่ไม่ตรงตามที่ตกลง
• อาจถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว และนำไปใช้ในทางที่ผิด
• ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วมีการเรียกร้องค่าเสียหาย บริษัทประกันสามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง

ทำใบขับขี่ให้ถูกกฎหมายควรทำอย่างไร

การทำใบขับขี่ควรทำที่สำนักงานขนส่งในจังหวัดที่เราสะดวก ตามขั้นตอน ดังนี้

1. ตรวจสอบคุณสมบัติตามประเภทใบขับขี่ที่ต้องการ เช่น อายุ ประสบการณ์การขับขี่ ฯลฯ
2. ลงทะเบียนจองคิวทำใบขับขี่ผ่านระบบออนไลน์ของ กรมการขนส่งทางบก
3. ไปที่สำนักงานขนส่งตามวันเวลาที่จองคิว พร้อมเตรียมเอกสารให้ครบ เช่น บัตรประชาชน ใบรับรองแพทย์ เป็นต้น
4. ผ่านการอบรมและสอบตามข้อกำหนด ทั้งสอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติ
5. ชำระค่าธรรมเนียมใบขับขี่ และรอรับใบขับขี่

ใบขับขี่มีทั้งหมดมี 11 ประเภท แบ่งตามประเภทยานพาหนะ เช่น รถยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ รถสาธารณะ ฯลฯ ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีเงื่อนไขแตกต่างกัน เช่น อายุขั้นต่ำ ประสบการณ์การมีใบขับขี่ชั่วคราวมาก่อน เป็นต้น

เมื่อได้ใบขับขี่มาแล้ว อย่าลืมตรวจสอบวันที่ใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ และต่ออายุก่อนถึงวัน เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมาย ซึ่งคุณสามารถต่อใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ได้ล่วงหน้า เมื่ออายุใบขับขี่เหลือไม่เกิน 1 ปี

ใช้ใบขับขี่ปลอมเคลมประกันได้ไหม

หากเกิดอุบัติเหตุแล้วคู่กรณีพบว่าเราใช้ใบขับขี่ปลอมขณะขับรถ บริษัทประกันมีสิทธิปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ แม้ว่าจะทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองระดับสูงสุดไว้ก็ตาม เพราะผู้เอาประกันถือว่ากระทำผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย

ดังนั้น การขับรถด้วยใบขับขี่ที่ได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ทั้งเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและผู้อื่น รวมถึงไม่เสี่ยงต่อการเสียสิทธิประโยชน์จากประกันรถยนต์ หากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน

ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ มีความผิดหรือไม่

แม้จะไม่ได้ใช้ใบขับขี่ปลอม แต่หากขับรถยนต์โดยไม่มีใบขับขี่เลย ก็ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์อยู่ดี มีโทษปรับสูงสุด 1,000 บาท ส่วนกรณีที่มีใบขับขี่แต่ไม่ได้พกติดตัวขณะขับรถ เช่น ลืมใบขับขี่ไว้ที่บ้าน ถ้าเจอด่านตรวจหรือถูกเรียกตรวจ ก็จะถูกปรับ 500 บาท และเสียเวลาไปแสดงใบขับขี่ที่สถานีตำรวจภายใน 5 วันด้วย ซึ่งถ้าไม่ทำตาม ก็จะมีความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ดังนั้น เพื่อความสะดวกและไม่เสียเวลา ควรพกใบขับขี่ติดตัวไว้เสมอเมื่อต้องขับรถ หรืออาจถ่ายรูปเก็บไว้ในมือถือสำรองก็ได้ กรณีที่ลืมพกใบขับขี่จริงๆ

ใบขับขี่หาย ต้องทำอย่างไร

ถ้าใบขับขี่หายไป ไม่ว่าจะเพราะทำตกหล่นหรือถูกขโมย ก็สามารถไปขอทำใบใหม่ได้ที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่ออกใบขับขี่ให้ โดยใช้เอกสารดังนี้

1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. ใบแจ้งความว่าใบขับขี่สูญหาย (แจ้งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ตำรวจได้)
3. สำเนาทะเบียนบ้าน
4. รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก ขนาด 1 นิ้ว 2 รูป
5. ค่าธรรมเนียม 100 บาท

สรุปบทความ

จะเห็นได้ว่า การมีใบขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมายนั้นมีความสำคัญมาก ทั้งเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองและผู้ร่วมทาง และยังช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการซื้อใบขับขี่เถื่อนที่ผิดกฎหมายอีกด้วย เมื่อถึงเวลาต้องทำหรือต่ออายุใบขับขี่ ก็ควรทำตามขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบกอย่างเคร่งครัด เพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกคนบนท้องถนน และหากใครพบเห็นการซื้อขายใบขับขี่เถื่อนก็สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ทาง สายด่วนกรมการขนส่งทางบก เบอร์ 1584 เพื่อป้องกันไม่ให้ใครหลงผิด และสร้างความเสี่ยงให้กับตัวคุณและสังคม