ชวนรู้จัก “ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถ”

จำนวนผู้เข้าชม : 30
Tag:
ชวนรู้จัก “ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถ”  
 
     ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถ หรือที่รู้จักกันในคำว่า “ค่าสินไหม” ที่เมื่อผู้ขับรถยนต์เกิดเหตุการณ์รถเกิดอุบัติเหตุและคุณเป็นฝ่ายถูก คุณจะต้องได้รับเงินชดเชยส่วนนี้จากคู่กรณี (ฝ่ายผิด) แต่จะเรียกเก็บอย่างไร บางท่านอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่า มีผลประโยขน์ต้องส่วนนี้อยู่ด้วยซ้ำ และจะเรียก “ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถ” นี้จากใคร ทิพเลดี้มีคำตอบ 
 
     เงินชดเชยส่วนนี้สามารถเรียกร้องได้จากบริษัทประกันรถของคู่กรณี หรือจากคู่กรณีที่ประสบเหตุโดยที่เป็นฝ่ายถูกเท่านั้น กล่าวคือคุณใช้รถยนต์เป็นประจำทุกวันเมื่อไม่มีรถในการเดินทาง ต้องใช้บริการรถสาธารณะแทน อาทิ แท็กซี่, รถเมล์, รถไฟฟ้า ฯลฯ ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นส่วนที่สามารถเรียกร้องได้จากประกันของรถคู่กรณี ซึ่งค่าเดินทางเหล่านี้คุณต้องประมาณค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจริง พร้อมมีเอกสารแนบให้ครบที่สุด เพื่อความรวดเร็วของการได้รับซึ่งค่าชดเชย หรือหากเอกสารไม่พร้อมคุณจะต้องมีการทำเรื่องหลายรอบก็จะเสียทั้งเวลา เงิน และอารมณ์แบบทวีคูณ
 
เอกสารที่ต้องเตรียมทำเรื่อง
1. ใบเสนอรายการความเสียหายของรถยนต์ ที่พร้อมสำเนาเอกสารไว้แล้ว ซึ่งต้องระบุวันที่ติดต่อซ่อมรถกับอู่ซ่อมรถหรือศูนย์บริการให้ชัดเจน
 
2. ใบเคลม (ใบรับรองความเสียหายต่อทรัพย์สิน) เอกสารที่เจ้าหน้าที่เคลมประกันออกให้เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะระบุไว้ชัดเจนว่ารถเสียหายตรงไหนบ้าง และเป็นฝ่ายถูก
 
3. สำเนาตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ หน้าแรกกรมธรรม์ประกันภัย เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
 
4. สำเนาทะเบียนรถยนต์ สมุดทะเบียนรถยนต์เล่มสีน้ำเงินที่ระบุวันจดทะเบียน และกรรมสิทธิ์ ชื่อเจ้าของรถยนต์ ที่ตรงกับเจ้าของสิทธิ์ที่จะเรียกค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถ
 
5. สำเนาใบขับขี่รถยนต์ พร้อมเซ็นต์เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
 
6. ใบรับรถ หรือหนังสือส่งมอบรถวันที่ซ่อมเสร็จ ขอย้ำว่าต้องระบุวันที่รถทำการซ่อมเสร็จไว้อย่างชัดเจน
 
7. รูปถ่ายตอนซ่อมรถ ส่วนนี้ขอได้จากอู่รถยนต์ หรือถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่จะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับการเรียกค่าสินไหมได้ว่าซ่อมตรงไหนยังไงบ้าง และใช้ระยะเวลาเท่าใดในการซ่อม รวมถึงรูปถ่ายของอู่รถยนต์ หรือศูนย์บริการที่นำรถเข้าซ่อมด้วย
 
8. หนังสือเรียกร้องสินไหมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถ จดหมายแจ้งเรื่อง หาตัวอย่างฟอร์มการเขียนจดหมายทางการ เพื่อแจ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดพร้อมระบุการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถให้ชัดเจน
 
9. หน้าบุ๊กแบงก์หรือสมุดบัญชีธนาคาร ที่ต้องการให้บริษัทประกันโอนเงินเข้าบัญชี 
 
ขั้นตอนการยื่นเรื่อง
1. แจ้งบริษัทประกันของคู่กรณี เพื่อยื่นเรื่องเรียกค่าขาดประโยชน์จากการไม่มีรถใช้ระหว่างซ่อม
 
2. การส่งเอกสารให้บริษัทประกันของคู่กรณี (เอกสารตามข้างต้น) ทุกเอกสารต้องมีสำเนาอย่างละ 1 ชุด พร้อมเซ็นกำกับสำเนาถูกต้อง
 
3. รอเจ้าหน้าที่บริษัทประกันของคู่กรณีติดต่อกลับมา เพื่อต่อรองค่าขาดประโยชน์
 
4. เมื่อตกลงค่าเสียหายได้แล้ว รอประมาณ 7 วัน จะได้รับค่าขาดประโยชน์ตามที่ตกลง และหากบริษัทประกันของคู่กรณี ไม่ยอมจ่ายค่าขาดประโยชน์หรือตกลงไม่ได้ สามารถส่งเรื่องฟ้องต่อไปยัง คปภ. ให้ช่วยดำเนินการได้ทันที
 
     ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 TIP Lady ที่ให้คุณมากกว่าประกันรถยนต์ ประเภท 1 ทั่วไป ซึ่งค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถจ่ายตามจริงสูงสุด 2,000 บาท/ครั้ง (3ครั้ง/ปี) และยังมีความคุ้มครองพิเศษอื่นๆ อีกเพียบที่เข้าใจคุณผู้หญิงที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ค่าตกแต่งบาดแผล วงเงิน 1 ล้านบาท หรือค่าคุ้มครองกระเป๋าแบรนด์เนมสูงถึง 20,000 บาท ดีกว่านี้เข้าใจคุณสาวๆ ขนาดนี้ไม่มีอีกแล้ว สนใจเช็คเบี้ยและสมัครได้แล้ววันนี้