ขับรถชนท้าย ใครผิด-ใครถูก ดูยังไง?

จำนวนผู้เข้าชม : 37

ขับรถชนท้าย ใครผิด-ใครถูก ดูยังไง?

พระราชบัญญัติจราจรทางบกมาตรา ๔๐ พ.ศ. ๒๕๒๒ ระบุชัดเจนว่า “ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างคันหน้าพอสมควรในระยะที่หยุดรถได้โดยปลอดภัย เมื่อจำเป็นต้องหยุดรถ” ด้วยมาตราที่กำหนดนี้ทำให้ผู้ขับขี่ต้องตัดสินใจว่าการเว้นระยะห่างแค่ไหนที่เรียกว่าเหมาะสม และเว้นแค่ไหนที่จะไม่ไปชนท้ายรถคันอื่น ซึ่งหลักการพิจารณาการชนจะพิจารณาจากต้นเหตุที่ทำให้เกิดการชน ดังนี้

1. รถยนต์มีประกันคุ้มครอง

สำหรับรถยนต์มีประกันคุ้มครองผู้ขับขี่ที่ชนท้ายจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด แต่หากคุณทำประกันภัยรถยนต์อยู่แล้วไม่ต้องกังวล เพราะเมื่อเกิดเหตุสามารถโทรเรียกบริษัทประกันมาตรวจสอบและประเมินค่าเสียหาย (ตามที่กรมธรรม์ระบุไว้)  แต่หากเกิดอุบัติเหตุการชนแบบต่อกันเป็นทอดๆ หลายคัน รถคันแรกสุดจะเป็นต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด

1.1 กรณีคุณเป็นฝ่ายผิด

 1.1.1 แบบมีประกันชั้น 1 (TIP LADY)

- คุ้มครองค่าเสียหาย/ค่าซ่อม ทั้งคุณและผู้กรณีทั้งหมด (ตามที่กรมธรรม์ระบุ)

- ชดเชยค่าเดินทางระหว่างนำรถเข้าซ่อม สำหรับฝ่ายถูก 2,000 บาท/ครั้ง (3 ครั้ง)

- รถทดแทนระหว่างซ่อม มีบริการ (ตามคิว)

           - รับ-ส่งรถ เข้าอู่ซ่อมฟรีในเครือที่เข้าร่วมรายการ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

  1.1.2 แบบมีประกันชั้น 2

          ความคุ้มครองเหมือนประกันชั้น 1 คือ คุ้มครองค่าเสียหาย/ค่าซ่อม ทั้งคุณและผู้กรณีทั้งหมด (ตามที่กรมธรรม์ระบุ) แต่จะไม่คุ้มครองในอุบัติเหตุที่ไม่ได้เกิดกับรถยนต์อีกฝ่าย เช่น  เฉี่ยวชนแล้วหนี

  1.1.3 แบบมีประกันชั้น 3

          คุ้มครองเฉพาะจ่ายค่าเสียหาย/ค่าซ่อม ให้กับผู้กรณีที่โดนชน ส่วนผู้ถือประกันจะต้องดูแลค่าเสียหาย/ค่าซ่อมด้วยตัวเอง

1.2 กรณีคุณเป็นฝ่ายถูก

กรณีขับรถมีรถคันอื่นมาชนท้าย กรณีนี้มั่นใจได้เลยว่าคุณเป็นฝ่ายถูกแน่นอน ในส่วนค่าเสียหายของรถนั้นทางคู่กรณีต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ ส่วนการตกลงค่าเสียหายควรให้ทางประกันเป็นผู้ดำเนินการตกลงกับคู่กรณีให้ เพื่อการดูแลในเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ ให้อย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เราเสียเปรียบ และควรลงบันทึกประจำวันไว้ เผื่อคู่กรณีมีปัญหาไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายตามที่ตกลงภายหลัง

 

2. รถยนต์ไม่มีประกันคุ้มครอง / ประกันหมด / ลืมต่ออายุกรมธรรม์

            ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะการทำประกันภัยรถยนต์ในทางกฎหมายเป็นการประกันภัยภาคสมัครใจ ตามแต่ประสงค์ของเจ้าของรถพึ่งประสงค์ที่จะทำประกันเพื่อคุ้มครองรถยนต์ตนเองหรือไม่

 2.1 กรณีคุณเป็นฝ่ายผิด

เมื่อรถยนต์ที่ไม่มีประกันคุ้มครองจะมีเรื่องยุ่งยากกว่าปกติ เพราะว่าการตกลงค่าเสียหายต่างๆ คุณจะต้องเป็นคนชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดด้วยตัวคุณเองซึ่งเป็นเงินที่ค่อยข้างสูงเลยทีเดียว รวมถึงค่ารักษาพยาบาลหากเกิดมีการบาดเจ็บทั้งของฝ่ายคุณแล้วคู่กรณี โดยหากตกลงกันได้ให้ผู้โดนชนให้ประกันตีราคาแล้วเรียกเก็บมาที่คุณ หรือ ให้ผู้โดนชนนำรถยนต์เข้าอู่และประเมิณค่าซ่อมนำใบจ่ายใช้จ่ายมาเรียกเก็บที่คุณ

ฉะนั้น การมีประกันรถยนต์เอาไว้อุ่นใจกว่าแน่นอน อย่าลืมเช็ควันหมดอายุประกัน และสามารถต่ออายุประกันออนไลน์ได้ด้วยตนเองง่ายๆ ที่https://www.tipinsure.com/Renew

2.2 กรณีคุณเป็นฝ่ายถูก

 คุณมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องค่าเสียหายและให้คู่กรณีชดใช้เงินค่าซ่อม รวมถึงค่ารักษาพยาบาล ได้ตามค่าใช้จ่ายตามจริง 

 

3. กรณีผู้ขับไม่มีใบขับขี่

3.1 กรณีคุณเป็นฝ่ายผิด

ประกันจะไม่คุ้มครองความเสียหายของตัวรถเท่านั้น ส่วนความเสียหายของบุคคลภายนอก เช่น ชีวิต ,ทรัพย์สิน และร่างกาย ประกันยังคงต้องรับผิดชอบตามกรมธรรม์กำหนด แม้ผู้ขับขี่จะไม่มีใบขับขี่ก็ตาม

 3.2 กรณีคุณเป็นฝ่ายถูก

ประกันภัยของคู่กรณีเป็นผู้รับผิดชอบซ่อมรถ/ค่าเสียหาย/ค่ารักษาพยาบาลให้คุณเสมอ

 

4. กรณีผู้ขับไม่ใช่เจ้าของรถยนต์

 4.1 กรณีคุณเป็นฝ่ายผิด มีหลักการพิจารณามี 2 หลักเกณฑ์คือ

4.1.1 รถยนต์ทำประกันแบบไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่

                   ประกันภัยประเภทนี้จะคุ้มครองความรับผิดและความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดในระหว่างการใช้หรือการขับขี่ของบุคคลใดๆ ก็ตามที่ใช้หรือขับขี่โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของรถหรือเจ้าของประกันภัย ผู้เอาประกันภัยไม่จำเป็นต้องเข้ามาร่วมรับผิดในความเสียหายส่วนแรกแต่อย่างใด

4.2.1 รถยนต์ทำประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่

                   ถึงแม้ว่าความรับผิดหรือความเสียหายได้เกิดขึ้นในขณะที่มีบุคคลที่ผู้เอาประกันภัยยินยอมแล้วเป็นผู้ขับขี่อยู่ก็ตาม แต่หากบุคคลผู้นั้นไม่ใช่บุคคลที่ระบุชื่อเป็นผู้ขับขี่ในกรมธรรม์แล้ว ผู้เอาประกันภัยจะต้องเข้ามารับผิดในความเสียหายส่วนแรกเอง ดังนี้

2,000 บาทแรก ของความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

6,000 บาทแรก ของความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัยที่เกิดจากการชน หรือ คว่ำ

4.2 กรณีคุณเป็นฝ่ายถูก ผู้กรณีเป็นฝ่ายรับผิดชอบจะชดใช้ค่าเสียหายให้คุณทั้งหมด

 

5. กรณีผู้ขับมีอาการมึนเมา

            หากรถคันหน้านั้นขับขี่ด้วยความประมาท มีอาการมึนเมา หรืออยู่สภาพที่ไม่พร้อมจะขับขี่ หากคุณสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นจริงตามข้างต้นว่าคันหน้าขับรถโดยประมาท โดยมีอาการดังกล่าว คุณจะเป็นฝ่ายถูกและได้รับค่าชดเชยค่าเสียหายต่างๆ ที่เกิดจากอุบัติเหตุ

ฉะนั้นนการติดกล้องหน้ารถก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มีหลักฐานเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา แต่หากคุณเป็นฝ่ายขับขี่ด้วยความประมาท มีอาการมึนเมา หรืออยู่สภาพที่ไม่พร้อมจะขับขี่ ขอแนะนำประกันชั้น 1 TIP LADY มีบริการพนักงานขับรถผู้หญิง U Drink I Drive จำนวน 1 ครั้ง เพื่อป้องอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง