7 เทคนิค ลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่ทำได้จริง ทำได้ด้วยตนเอง
จำนวนผู้เข้าชม : 56
เทคนิคลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ให้คุณทำประกันรถในราคาที่ถูกลง
สำหรับคนที่ใช้รถยนต์อยู่เป็นประจำ ประกันภัยรถยนต์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้และจำเป็นอย่างมากและต้องมีการจ่ายค่าเบี้ยประกันทุกปี เพื่อคุ้มครองเวลาเกิดอุบัติเหตุและเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นในอนาคต โดยในวันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีการจ่ายค่าเบี้ยประกันรถยนต์ให้ถูกลงสามารถทำตามได้จริง
7 เทคนิคช่วยลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์
ประกันรถยนต์จำเป็นอย่างมาก หากมี พ.ร.บ. อยู่แล้ว ก็ต้องทำประกันรถยนต์ เวลาเกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์จะช่วยเข้ามาแบ่งภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้มากกว่า พร้อมทั้งยังมีความคุ้มครองในด้านต่าง ๆ โดยการทำเบี้ยประกันรถยนต์แต่ละปีก็มีการจ่ายราคาค่อนข้างสูงยิ่งถ้าประกันรถยนต์ชั้นหนึ่งด้วยแล้ว การจ่ายเบี้ยแต่ละปีนั้นถือว่าสูงมาก ๆ โดยในวันนี้เราก็มีเทคนิคที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อประกันรถยนต์เพื่อให้สอดคล้องกับยุคเศรษฐกิจในปัจจุบัน
1. เลือกความคุ้มครองให้เหมาะกับการใช้งาน
สำหรับผู้ที่ขับขี่รถยนต์ได้อย่างชำนาญแล้วและต้องการความคุ้มครองที่ตอบโจทย์เวลาการใช้งานในการขับขี่รถยนต์อาจจะทำประกันชั้นสองหรือชั้นสามแทน ยิ่งทำให้ค่าเบี้ยแต่ละปีนั้นถูกลงและแน่นอนว่าความคุ้มครองที่ครอบคลุมมีทุนประกันสูง 70 ถึง 80% ของมูลค่าของการประเมินของรถยนต์ค่าเบี้ยในแต่ละปีนั้นก็จะสูงตามไปด้วย
2. ระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ประกันรถ
การทำประกันรถยนต์แบบระบุชื่อผู้ขับขี่โดยมีใบอนุญาตขับขี่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย สามารถทำให้บริษัทประกันภัยลดเบี้ยประกันรถยนต์ให้กับลูกค้าได้ เหมาะสำหรับผู้ใช้งานรถยนต์ส่วนตัวอยู่เป็นประจำอยู่แล้วไม่ได้มีการเปลี่ยนผู้ขับขี่แบบบ่อย ๆ เพราะบริษัทจะแน่ใจได้ว่ารถยนต์คันนั้นผู้ขับขี่เอาประกันมีแค่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่ส่งต่อและไม่ส่งผลให้เกิดอัตราอุบัติเหตุต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และทำให้ค่าเบี้ยประกันในแต่ละปีนั้นถูกลงไปด้วย
3. กำหนดค่าเสียหายส่วนแรก
การกำหนดค่าเสียหายส่วนแรกนั้นเป็นหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัยกำหนดเอาไว้ที่ทุกบริษัทได้ใช้ในการดำเนินการซึ่งการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในส่วนนี้นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันผู้ที่แจ้งเคลมโดยไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง หรือหวังซ่อมรถกับบริษัทประกันภัยเพียงเพราะคิดว่าจะเคลมเมื่อไหร่ก็ได้ จึงทำให้การขับรถเป็นไปด้วยความประมาทหรือใช้รถด้วยความไม่ระมัดระวัง จนเกิดความเสียหายกับรถยนต์ได้โดยถ้าหากผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิดจะต้องจ่ายค่าเสียหายในการเคลมประกัน แต่ถ้าหากไม่ได้เป็นฝ่ายผิดเองก็ไม่ต้องจ่ายเองนั่นเอง
4. ติดกล้องหน้ารถ
อีกหนึ่งวิธียอดฮิตในการลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์อย่างง่ายดายและเซฟผู้ขับขี่ได้ด้วย นั่นก็คือการติดกล้องสามารถบันทึกเหตุการณ์เหตุการณ์เป็นหลักฐานสำคัญในการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งการติดกล้องหน้ารถยนต์และหลังรถนั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำประกันรถยนต์ใหม่ หรือต่อประกันรถยนต์ก็สามารถลดค่าเบี้ยประกันได้ 5-10%แล้วแต่ขึ้นอยู่กับผู้กำหนดในบริษัทประกันภัย
5. เลือกซ่อมอู่
ถ้าหากต้องการความมั่นใจในการเลือกซ่อมอู่มากขึ้น เพราะในบางครั้งอู่นอกอาจจะมีการโกงค่าซ่อม สลับอะไหล่หรือซ่อมอะไหล่ปลอมให้เรา ดังนั้นเราควรเลือกซ่อมอู่ที่อยู่ในบริษัทประกันเพราะจะสามารถอุ่นใจได้ว่า อู่ที่เราใช้บริการนั้นปลอดภัยไม่ต้องรอคิวนาน รวมทั้งจะทำให้เราประหยัดค่าเบี้ยประกันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
6. ส่วนลดผู้ขับขี่ประวัติดี
ประวัติดีไม่มีการเคลม พฤติกรรมของผู้ที่ขับขี่อย่างระมัดระวัง ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างมาก ซึ่งการมีประวัติการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่จะส่งผลให้เบี้ยประกันถูกลงเนื่องจากไม่มีประวัติการเคลม ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลยสักครั้งเดียว เคลมแต่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดผู้เอาประกันภัยก็จะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมในการต่อเบี้ยประกันรถยนต์ในปีถัดไป (ส่วนลด ตามจำนวนปีที่ไม่มีการเคลม)
7. อายุของรถ
รถรุ่นใหม่หรือรถที่มีผลต่อการต่อเบี้ยประกันรถยนต์ เช่น รถรุ่นใหม่ที่มีอายุไม่มาก มักจะมีราคาแพงและเป็นเป้าหมายในการถูกโจรกรรม จึงทำให้เบี้ยประกันมีราคาค่อนข้างสูง ต่างจากรถเก่าที่มีราคาเบี้ยที่ถูกลงไปเรื่อย ๆ รวมทั้งทุนประกันก็จะลดลงในทุก ๆ ปีตามค่าความเสื่อมของรถยนต์นั่นเอง
สรุปบทความ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเคล็ดไม่ลับในการลดเบี้ยประกันรถยนต์ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้ใช้งานในการขับขี่รถยนต์ ถ้าหากเราใช้เป็นประจำทุกวันและไม่เกิดความเชี่ยวชาญอาจจะต้องใช้ประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองแบบครอบคลุม แต่ถ้าหากเราขับหลายปีที่มีอายุรถและประสบการณ์ที่มากขึ้น เราก็ใช้ความคุ้มครองที่ลดลงมาได้ ดังนั้นการทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งจำเป็นและควรค่าแก่การซื้อ เพราะทุกบริษัทมักมีความน่าเชื่อถือและมีการเปรียบเทียบความคุ้มครองแตกต่างกันออกไป