มือใหม่หัดขับควรรู้ ฝึกขับรถยนต์กี่วันดี

จำนวนผู้เข้าชม : 401

 

มือใหม่หัดขับควรรู้ ฝึกขับรถยนต์กี่วันดี 

 

                   สำหรับคนที่กำลังจะถอยรถใหม่ป้ายแดงหรือมีแนวโน้มว่าจะได้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการขับขี่รถยนต์ แน่นอนว่าคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์หรือเริ่มต้นขับรถมาก่อนเลยในชีวิต จะมีความรู้และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เท่ากับ 0% ซึ่งเรียกว่าไม่สามารถไปลองผิดลองถูกบนท้องถนนจริงได้ เพราะการขับขี่รถยนต์เป็นเรื่องของความปลอดภัยรวมถึงการมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมเป็นสำคัญ ซึ่งแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการขับขี่ที่ดีและตอบโจทย์มากที่สุดคือสถานที่สำหรับสอนขับรถยนต์เป็นการเฉพาะ โดยองค์กรเหล่านี้จะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญและมีความเข้าใจเกี่ยวกับการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพคอยเคี่ยวเข็ญและสอนการขับรถอย่างน่าสนใจ ซึ่งในระหว่างการเรียนรู้นั้นจะมีการสอนเทคนิคการขับขี่ตลอดจนมารยาทต่าง ๆ ที่คนขับจะต้องฝึกอย่างเคร่งครัดเพื่อนำไปใช้ในการขับขี่ได้อย่างแท้จริง โดยก่อนที่จะมีการจัดการเรียนการสอนนั้นผู้ฝึกสอนจะสอบถามผู้เรียนว่าเคยมีทักษะการขับขี่มาก่อนหรือไม่ เพื่อจัดคอร์สการขับขี่ให้ตรงตามทักษะของผู้เรียนรู้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป ดังนั้นเราจึงไม่สามารถกำหนดระยะเวลาของการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบได้อย่างชัดเจน เพราะการเรียนรู้และความชำนาญของแต่ละบุคคลนั้นมีความแตกต่างกันนั่นเอง

 

เรียนรู้การขับขี่อย่างปลอดภัยคือหัวใจสำคัญที่ขาดไม่ได้

                   อย่างไรก็ตามเนื้อหาของการสอนจะมีความคล้ายคลึงกันโดยใช้ เส้นทางฝึกขับรถ ช่วงเริ่มต้นของการเรียนจะเลือกใช้สนามหรือพื้นที่ของโรงเรียนสอนขับรถเท่านั้น เพื่อเป็นการจำกัดขอบเขตของความอันตรายหรือป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการฝึกขับรถได้ ซึ่งเมื่อผู้สอนประเมินว่าผู้เรียนมีพัฒนาการด้านการขับขี่ที่มากขึ้นและเหมาะสมแก่การนำรถยนต์ไปฝึกในถนนสาธารณะซึ่งมียานพาหนะมากมายขับขี่ไปมาอยู่ตลอดเวลาแล้วจึงจะอนุญาตให้ไปลองขับในถนนจริง ซึ่งจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยกำกับการขับรถอย่างจริงจัง โดยในระหว่างนั้นผู้ขับขี่รถควรคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ อย่างรอบคอบทุกช่วงเวลาการตัดสินใจเบรกหรือหมุนพวงมาลัยเลยก็ว่าได้

 

สิ่งสำคัญที่มือใหม่หัดขับควรทำอยู่สม่ำเสมอ

  1. ควรรักษามารยาทบนท้องถนนที่จะต้องมีให้กับผู้อื่นด้วย ซึ่งอาจจะแสดงออกได้หลายสถานการณ์เช่น เมื่อถึงทางแยกของถนนควรหยุดรถเพื่อให้รถบริเวณทางเอกออกตัวไปเสียก่อน และในฐานะที่เราเป็นผู้ขับขี่มือใหม่ควรขับรถชิดซ้ายด้วยความเร็วที่ไม่มากนักซึ่งจะทำให้การขับขี่เป็นไปในสถานะที่สามารถควบคุมได้และมีความปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งในบางสถานการณ์อาจจำเป็นต้องเพิ่มความเร็วรถขึ้นและเปลี่ยนไปอยู่ที่เลนขวาตามความเหมาะสมได้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะกดดันหรือรีบร้อนมากแค่ไหนควรรักษาระยะห่างของรถคันข้างหน้าและด้านหลังให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการจี้ท้ายหรือชนท้ายกันนั่นเอง
  2. ผู้ที่กำลังฝึกขับรถหลายท่านมักให้ความเห็นตรงกันว่าสิ่งที่ยากที่สุดในการขับรถ คือการถอยรถให้ตรงและถูกช่องจอดเป็นเรื่องที่หินพอสมควร โดยบางรายอาจจะมีการกินเลนช่องจอดของคนอื่นหรือถอยจอดจนชิดมากเกินไปก็ได้ ดังนั้นวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดคือการฝึกถอยรถจนเกิดความชำนาญขึ้นมาด้วยตนเองให้ได้ ซึ่งคุณอาจจะปรึกษาครูผู้สอนให้เข้ามาชี้แนะและฝึกฝนกันต่อไป ซึ่งควรเริ่มต้นด้วยความใจเย็นและค่อย ๆ ทำอย่างมีสติ เพราะวิธีนี้อาจจะช่วยทำให้พัฒนาการการถอยรถของคุณดีขึ้นได้
  3. มารยาทการขับขี่และกฎการขับรถอีกอย่างที่ไม่ควรลืมเป็นอย่างยิ่งนั่นก็คือการเปิดไฟเลี้ยวอย่างสม่ำเสมอเมื่อถึงจุดที่ต้องการเลี้ยว เพื่อเป็นการเตือนยานพาหนะคันอื่น ๆ ให้ทราบว่าเรากำลังจะเปลี่ยนเส้นทางแล้ว ซึ่งระยะที่เหมาะสำหรับการเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวที่ดีที่สุดคือระยะที่ไม่ต่ำกว่า 30 เมตรนั่นเอง
  4. จงเรียนรู้การใช้สัญญาณต่าง ๆ ที่มีอยู่ในรถยนต์ของคุณให้คล่องมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณฉุกเฉิน การบีบแตร  หรือการกระพริบไฟ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องอาศัยความมีสติและการตัดสินใจที่รวดเร็ว เพราะจะต้องคิดให้ทันกับความเร็วของรถ เพื่อใช้งานสัญญาณนั้น ๆ ได้ตรงตามจุดประสงค์และปลอดภัยต่อทุกคนมากที่สุด
  5. การคำนึงถึงความไม่ประมาทถือเป็นหัวใจหลักในการขับขี่รถยนต์เลยก็ว่าได้ เพราะหากเราเป็นคนที่ขาดสติ ใจร้อน อาจจะมีการขับขี่อย่างประมาทซึ่งแน่นอนว่าเป็นที่มาของหายนะได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้การประเมินความสามารถของตนเองว่ามีเพียงพอไหมกับการใช้เส้นทางที่มีความอันตราย เช่น ขึ้นเขาหรือ ลงห้วย อย่างตรงไปตรงมาจำทำให้ลดโอกาสเกิดความเสียหายได้ เพราะหากอาศัยเพียงความคึกคะนองอย่างเดียวก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความสูญเสียของหลาย ๆ ฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจขึ้นมาได้

                   อย่างไรก็ตามเมื่อฝึกขับรถยนต์จนครบตามหลักสูตรแล้ว ก็อย่าลืมไปทำใบขับขี่และต่อ พ.ร.บ.รถ ชนิดนั้น ๆ ให้เรียบร้อย เพราะทั้ง 2 รายการนี้ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญในการขับขี่ยานพาหนะที่กฎหมายบ้านเราได้มีการบังคับเอาไว้อย่างชัดเจน หากปล่อยปละละเลยหรือไม่ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดอาจถูกปรับและดำเนินคดีได้เลย นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มทางเลือกของประกันรถยนต์ก็สามารถเข้ามาศึกษาประกันภัยยานพาหนะในรูปแบบต่าง ๆ ของบริษัททิพยประกันภัยได้เสมอ ซึ่งที่นี่มีทั้ง ประกันรถยนต์ชั้น 1 และชั้นอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณได้ลองพิจารณา ดังนั้นเมื่อทราบวิธีการขับขี่อย่างปลอดภัยแล้ว อย่าลืมสร้างความคุ้มครองต่าง ๆ ให้กับตัวเองและคนรอบข้างด้วยนะคะ

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง