รัชกาลที่ ๙ แห่งพระราชจักรีวงศ์

รัชกาลที่ ๙ แห่งพระราชจักรีวงศ์

ในช่วง พ.ศ.๒๔๙๑ – ๒๕๐๐ เป็นช่วงที่ทรงเริ่มต้นวาระสำคัญต่างๆในพระราชภารกิจที่จะต้องปฏิบัติต่อไปในฐานะพระมหากษัตริย์

           เริ่มจากช่วงเวลาที่กำลังทรงศึกษาอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์นั้น คืนหนึ่งในเดือนเมษายน พ.ศ.๒๔๙๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯไปเสวยพระกระยาหารค่ำ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปารีส ได้ทรงพบกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ธิดาของหม่อมเจ้านักชัตรมงคล กิติยากร เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปารีสในขณะนั้น กับหม่อมหลวงบัว กิติยากร ด้วยทั้งสองพระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยด้านดนตรีเป็นพิเศษ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทรงรู้สึกพอพระราชหฤทัยหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ และทรงโทรศัพท์ถึงสมเด็จพระบรมราชชนี ทูลว่า

            “เห็นแล้วน่ารักมาก”

        วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๙๒ จึงทรงหมั้นกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร และในวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส และทรงสถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ นับเป็นช่วงที่ยังความปิติยินดีแก่ราษฎรไทยเป็นอย่างยิ่ง

          วันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีราชาภิเษกขึ้น ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง และทรงพระราชทานพระปฐมบรมราโชวาทว่า

            “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”

     ทรงหลั่งทักษิโณทก ตั้งพระราชสัตยาธิษฐานว่าจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ปกครองราชอาณาจักรไทยโดยทศพิธราชธรรมจริยา

           นับแต่นั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๙ แห่งราชจักรีวงศ์โดยสมบูรณ์ ทรงตั้งพระราชปณิธานที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชนของพระองค์ พัฒนานำความเจริญสุขสวัสดีมาสู่ประเทศชาติอย่างแน่วแน่และดีที่สุดที่จะทรงทำได้

ข้อมูล : สมุดตราไปรษณียากรพิเศษ “ดั่งดวงแก้วแห่งแผ่นดิน”