พระบรมโพธิสมภารปกเกล้าปวงประชา
จำนวนผู้เข้าชม : 410

พระบรมโพธิสมภารปกเกล้าปวงประชา
วันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ ประวัติศาสตร์การกีฬาของโลกต้องบันทึกถึงพระอัจฉริยภาพด้านกีฬาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไว้ว่า ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในฐานะนักกีฬาทีมชาติ โดยทรงได้รับเหรียญทองชนะเลิศการแข่งขันเรือใบประเภทโอเค ในกีฬาแหลมทองครั้งที่ ๔ โดยทรงใช้เรือที่ต่อขึ้นเองในตระกูล “มด” ในการแข่งขัน ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๓๐ คณะกรรมการโลกโอลิมปิกสากลมีมติเป็นเอกฉันท์ ทูลเกล้าฯถวายเหรียญทองดุษฎีกิตติมศักดิ์ของโลกโอลิมปิก คือ "อิสริยาภรณ์โอลิมปิกสูงสุด (ทอง)” แด่พระองค์ท่าน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยการพระราชทานโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์อันสับสนวุ่นวายทางการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านที่ส่งผลถึงสถานการณ์ในประเทศไทย โปรดเกล้าฯให้สร้างพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่, ตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร และพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส ไว้เป็นที่ประทับแรม เพื่อที่จะได้ทรงพบเห็นความเป็นอยู่ของชาวบ้าน และเป็นศูนย์กลางสำหรับเสด็จออกพัฒนาในภูมิภาคนั้นๆทั่วประเทศ
วันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๔ ทรงประกอบพระราชพิธีรัชดาภิเษก เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ครบ ๒๕ ปี ทรงขอให้รัฐบาลในขณะนั้นจัดงานโดยประหยัด ให้เน้นหนักไปในการพัฒนาบ้านเมือง เช่น สร้างโรงเรียน จัดตั้งทุนเพื่อการศึกษาและวิจัย สร้างถนน ฯลฯ ดังที่จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีในเวลานั้นได้บันทึกไว้ว่า
“ก่อนหน้านั้น ทางรัฐบาลได้กราบบังคมทูลว่าจะขอพระราขทานพระบรมราชานุญาตสร้างพระบรมราชานุสรณ์ แต่พระองค์ท่านได้มีพระราชดำรัสว่า “อย่าสร้างอนุสาวรีย์เลย สร้างถนนดีกว่าได้ประโยชน์กับคนส่วนใหญ่” ดังนั้นรัฐบาลจึงได้สร้างถนนวงแหวนขึ้น และขอพระราชทานนามว่า “ถนนรัชดาภิเษก” นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ชาวไทย ตลอดจนชาวต่างประเทศที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทย และนับเป็นแบบอย่างแห่งการเสียสละอย่างแท้จริง”
ข้อมูล : เรียบเรียงจากสมุดตราไปรษณียากรพิเศษ “ดั่งดวงแก้วแห่งแผ่นดิน”