ทริกเลือกซื้อคอนโด ให้ตอบโจทย์ชีวิตครบทุกด้าน
จำนวนผู้เข้าชม : 153
ทริกเลือกซื้อคอนโด ให้ตอบโจทย์ชีวิตครบทุกด้าน
ในยุคไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ต้องการความสะดวกสบายรอบด้าน การเลือกซื้อคอนโดสักแห่ง จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการดูวิว หรือใกล้รถไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังต้องตอบโจทย์ชีวิตครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเรื่องการเดินทาง ความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย พื้นที่ใช้สอย ฟังก์ชันการอยู่อาศัย รวมถึงบรรยากาศที่เอื้อต่อการพักผ่อนหลังเลิกงาน
หลายคนตัดสินใจเร็วเกินไป จนพบว่าอยู่ไปไม่นานกลับรู้สึกอึดอัด หรือไม่ตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตจริง เช่น ไม่มีที่จอดรถเพียงพอ เสียงรบกวนจากถนนหลัก ไม่มีพื้นที่สีเขียวให้พักสายตา หรือแม้แต่ไม่มีร้านค้ารอบๆ ที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้น
ฉะนั้นก่อนจะเซ็นสัญญาเป็นเจ้าของคอนโดในฝัน ลองมาดู “ทริกสำคัญในการเลือกคอนโด” ที่ TIPINSURE รวบรวมไว้ให้ ช่วยให้คุณตัดสินใจได้รอบคอบมากขึ้น
ทำไมต้องซื้อคอนโด?
เพราะการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ทุกวันนี้ ไม่ได้วัดกันแค่พื้นที่กว้างแต่วัดกันที่ความสะดวก และการจัดการเวลา คอนโดมิเนียม จึงกลายเป็นคำตอบของไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการความคล่องตัว ความปลอดภัย และการใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพภายในพื้นที่ที่พอเหมาะ ที่เรียกว่า “มินิมอลแต่ครบเครื่อง” จะเดินทางก็ง่าย ใกล้ BTS หรือ MRT จะทำงานก็มี Co-working Space หรือมุมสงบให้ใช้งาน จะพักผ่อนก็แค่ลงลิฟต์ไปฟิตเนส สระว่ายน้ำ หรือโซนสวน ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ไม่ต้องเสียค่าดูแลบ้าน ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย
หรือแม้แต่นักลงทุนที่มองหาทรัพย์สินที่ปล่อยเช่าง่าย ขายต่อได้ไว และมีมูลค่าเพิ่มตามแนวรถไฟฟ้าหรือแหล่งธุรกิจ ก็หันมาสนใจคอนโดมิเนียมมากขึ้น
1. ซื้อคอนโดไม่ใช่แค่ดูว่าผ่อนไหว แต่ต้องวางแผนการเงินให้รอบด้าน
การซื้อคอนโดไม่ใช่แค่เรื่องของการเลือกห้องสวย วิวดี หรืออยู่ใกล้รถไฟฟ้าเท่านั้น การวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ ไม่เป็นภาระระยะยาว และไม่กระทบกับคุณภาพชีวิตก็เป็นเรื่องสำคัญ
เริ่มจากคำนวณความสามารถในการผ่อน
โดยทั่วไปสถาบันการเงินจะแนะนำค่าผ่อนชำระรายเดือน ไม่ควรเกิน 30-40% ของรายได้ต่อเดือน เช่น ถ้ามีรายได้ 40,000 บาทต่อเดือน ค่าผ่อนคอนโดควรไม่เกิน 12,000–16,000 บาท ต่อเดือน เพื่อให้ยังมีเงินเหลือสำหรับใช้จ่ายประจำวันและเก็บออม
อย่าคิดแค่ค่างวดธนาคาร
เพราะการซื้อคอนโดมีค่าใช้จ่ายแฝงที่หลายคนมักมองข้าม เช่น
- ค่าส่วนกลางรายเดือน/รายปี (เฉลี่ย 30–80 บาท/ตร.ม. ต่อเดือน)
- ค่าจดจำนองกับกรมที่ดิน (1% ของวงเงินกู้)
- ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ (2% ของราคาประเมิน หรือราคาซื้อขาย แล้วแต่กรณี)
- ค่านิติกรรม ค่าอากรแสตมป์ ค่าไฟฟ้า/น้ำประปาเริ่มต้น ค่าติดตั้งมิเตอร์ ฯลฯ
ทั้งหมดนี้รวมกันแล้วอาจต้องเตรียมเงินก้อนล่วงหน้าอีกหลายหมื่นถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับราคาคอนโดและเงื่อนไขโครงการ
รู้จักสินเชื่อบ้าน และเตรียมตัวขอให้ผ่าน
ถ้าคุณวางแผนกู้เงินจากธนาคาร การเตรียมตัวคือกุญแจสำคัญ โดยธนาคารจะพิจารณาหลักๆ จาก
- รายได้ประจำ (ต้องมีความมั่นคง และเพียงพอ)
- ภาระหนี้สินเดิม (เช่น ผ่อนรถ, บัตรเครดิต)
- ประวัติเครดิตบูโร (หากมีประวัติค้างชำระ อาจถูกปฏิเสธ)
- เงินเก็บหรือเงินดาวน์ที่เตรียมไว้ (หากมีเงินดาวน์มาก จะกู้ได้น้อยลง ดอกเบี้ยต่ำลง และอนุมัติง่ายขึ้น)
2. เปรียบเทียบราคาและเงื่อนไขโปรโมชั่น
แม้ราคาห้องจะใกล้เคียงกัน แต่ราคาต่อตารางเมตร (บาท/ตร.ม.) จะช่วยให้เปรียบเทียบความคุ้มค่าได้ชัดเจน และอย่าลืมเปรียบเทียบกับโครงการอื่นๆ ในย่านเดียวกัน เช่น ใกล้รถไฟฟ้าเหมือนกัน วิวใกล้เคียงกัน ขนาดห้องพอๆ กัน เพื่อดูว่าโครงการไหนให้ความคุ้มค่าที่สุดต่อพื้นที่จริงที่คุณได้รับ
โปรโมชั่นวันเปิดตัว vs ช่วงปิดการขาย = จังหวะดี มีผลต่อราคา
- ช่วงเปิดตัวโครงการใหม่ (Pre-sale) มักจะมีราคาพิเศษ หรือเลือกตำแหน่งห้องสวยๆ ได้ก่อน
- ช่วงปิดโครงการ หรือก่อนโอนบางเฟส อาจมีการให้ส่วนลดเพิ่ม ของแถมเยอะ เพื่อปิดยอดขายให้ทัน
แต่ระวัง! บางช่วงอาจราคาถูกลง แต่ห้องเลือกได้น้อย หรือได้ตำแหน่งที่ไม่ดีเท่าไหร่ ต้องชั่งใจให้ดีว่าคุณเน้นราคาถูกหรือห้องที่ตรงใจ
ของแถม = ความคุ้มค่าที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่
คอนโดหลายโครงการใช้ของแถมมาจูงใจลูกค้า เช่น
- เฟอร์นิเจอร์ครบชุด (Built-in, เตียง, โซฟา, โต๊ะกินข้าว ฯลฯ)
- เครื่องใช้ไฟฟ้า (แอร์, ทีวี, ตู้เย็น)
- ฟรีค่าส่วนกลางปีแรก
- ฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์, ค่าจดจำนอง, มิเตอร์น้ำ-ไฟ
ของแถมเหล่านี้ช่วยลดภาระการตกแต่งห้องใหม่ได้หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท และช่วยให้คุณเข้าอยู่ได้ไวกว่าเดิม
3. เลือกทำเลคอนโดให้ “คุ้มทั้งอยู่ คุ้มทั้งลงทุน”
ไม่ว่าคุณจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือเพื่อลงทุนปล่อยเช่า ทำเลที่ดีไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด แต่ควรเป็นทำเลที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต และมีโอกาสเพิ่มมูลค่าในอนาคต อยู่เองก็สะดวก ปล่อยเช่าก็ดี ขายต่อก็ง่าย
ใกล้รถไฟฟ้า = เดินทางง่าย = ความต้องการสูง
หากคอนโดอยู่ห่างจาก BTS หรือ MRT ไม่เกิน 400–800 เมตร จะเพิ่มความสะดวกในการเดินทางอย่างมาก ลดเวลารถติด ช่วยให้ชีวิตประจำวันคล่องตัว
ใกล้สถานที่ทำงาน โรงพยาบาล โรงเรียน
คนวัยทำงานจะมองหาคอนโดที่เดินทางถึงที่ทำงานได้ในเวลาไม่เกิน 30 นาที ลดเวลาเดินทาง เซฟค่าใช้จ่าย มีเวลานอน ไม่ต้องเหนื่อยล้าทุกวันจากการเดินทางไปทำงาน และถ้าใกล้โรงพยาบาลหรือศูนย์การแพทย์ก็เพิ่มความอุ่นใจ
ทำเลปัจจุบัน vs ทำเลอนาคต
- ทำเลปัจจุบัน คือพื้นที่ที่มีความเจริญแล้ว เช่น สาทร อโศก สุขุมวิท ราคาสูง แต่ความต้องการมั่นคง เหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวกเต็มรูปแบบ และพร้อมจ่ายเพื่ออยู่ทันที
- ทำเลอนาคต เช่น รามอินทรา บางนา พุทธมณฑลสาย 4 ที่ราคายังไม่สูง แต่มีการลงทุนภาครัฐหรือเอกชน เช่น การสร้างรถไฟฟ้า ห้างใหม่ หรือถนนตัดใหม่ แม้จะไม่สะดวกตอนนี้ แต่เมื่อโครงการแล้วเสร็จ อาจทำให้ราคาคอนโดเพิ่มขึ้น 10-30% ในไม่กี่ปี เหมาะกับนักลงทุนหรือคนที่วางแผนอยู่ระยะยาว
หากเลือกได้ถูกจุด คอนโดของคุณจะไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยแต่เป็นทรัพย์สินที่สร้างรายได้อย่างมั่นคง
4. เลือกโครงการที่ไว้ใจได้ ไม่ใช่แค่หน้าตาโครงการ
โครงการจากแบรนด์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงในวงการอสังหาฯ มักจะมาพร้อมมาตรฐานงานก่อสร้างที่ดีกว่า มีประสบการณ์ และรู้ว่าต้องออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยอย่างไรให้รองรับการใช้ชีวิตจริง ชื่อเสียงที่ดียังสะท้อนถึงความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และความตั้งใจในการส่งมอบคุณภาพให้กับลูกค้า
ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดจากโครงการควรเช็กประวัติ
- เคยสร้างคอนโดมาก่อนกี่แห่ง
- ลูกบ้านโครงการเก่าๆ มีปัญหาหรือไม่
- ส่งมอบห้องล่าช้าไหม คุณภาพตรงตามที่โฆษณาหรือเปล่า
- มีประวัติคดีฟ้องร้อง หรือหยุดก่อสร้างกลางทางหรือไม่
การเลือกคอนโดกับโครงการที่ไว้ใจได้ ช่วยลดความเสี่ยงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว คุณไม่ต้องกังวลกับปัญหาหลังเข้าอยู่ และยังส่งผลต่อมูลค่าในการขายต่อหรือปล่อยเช่าในอนาคตอีกด้วย
5. ดูแปลนห้องและแบบห้องอย่างไรให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์
ห้องที่คุณเลือกอยู่ก็มีผลอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตในแต่ละวัน เพราะในพื้นที่ไม่กี่ตารางเมตร หากวางแปลนไม่ดี ทิศไม่เหมาะ หรือเลือกขนาดห้องไม่ตรงกับไลฟ์สไตล์ ก็อาจทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่สะดวก หรืออยู่ได้ไม่นาน
ขนาดห้องที่เหมาะสมกับการใช้งาน
- ห้อง Studio (22–30 ตร.ม.) เหมาะกับคนอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตเรียบง่าย เน้นการเดินทาง สะดวก ปรับพื้นที่ใช้งานได้ในห้องเดียว
- 1 ห้องนอน (30–40 ตร.ม.) เหมาะกับคนทำงานหรือคู่รักที่ต้องการแยกพื้นที่นอนกับพักผ่อน มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- 2 ห้องนอน (50 ตร.ม. ขึ้นไป) เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก คนที่ทำงานที่บ้าน หรือผู้ที่ต้องการห้องทำงานแยก
แปลนห้องดี ไม่ใช่ห้องใหญ่เสมอไป แต่สามารถใช้พื้นที่ได้เต็มประสิทธิภาพ เช่น การวางแปลนให้ลงตัวไม่เหลือมุมอับ มีโซนครัวแยก และแสงธรรมชาติเข้าถึง ระบายอากาศได้ดี หรือการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็สำคัญ ถ้าเลือกแปลนที่เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินมาอย่างลงตัว ช่วยให้ห้องดูโปร่ง ไม่รก และไม่เสียพื้นที่
6. เลือกที่มีพื้นที่ส่วนกลาง ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ไว้พักผ่อนชิลๆ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในคอนโดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทั้งการพักผ่อน การทำงาน และความปลอดภัยก็กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกซื้อคอนโด
ก็เลือกคอนโดที่มีพื้นที่ส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำ ไว้ผ่อนคลายหลังเลิกงาน หรือแค่นั่งริมสระฟังเพลงเย็นๆ , ฟิตเนส ช่วยประหยัดเวลาเดินทาง ไม่ต้องเสียค่าฟิตเนส แถมยังได้ดูแลสุขภาพทุกวัน , Co-working Space หรือมุมทำงานสงบๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้อง Work from Home หรือมีงานเสริม แยกพื้นที่งาน พักผ่อนได้อย่างลงตัว , สวนส่วนกลางพื้นที่สีเขียว ช่วยรีเฟรชจิตใจได้ในวันที่เหนื่อยล้า แค่นั่งพัก สูดอากาศ ก็เหมือนได้หนีความวุ่นวาย , ระบบรักษาความปลอดภัย ความอุ่นใจที่สำคัญที่สุด เข้า-ออกด้วย Keycard Access กล้องวงจรปิดครอบคลุมพื้นที่ส่วนกลาง
7. ซื้อประกันภัยคอนโด TIP Condo กับ TIPINSURE
เพราะคอนโดก็เหมือนบ้านที่ควรได้รับการปกป้อง แม้คุณจะอยู่ในอาคารสูง มีระบบรักษาความปลอดภัย แต่ภัยบางอย่างก็ไม่อาจคาดเดาได้ อย่างไฟไหม้ น้ำรั่วซึม ฟ้าผ่า หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย รวมถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินภายในห้อง
TIP Condo จาก TIPINSURE ออกแบบมาเพื่อเจ้าของห้องชุดโดยเฉพาะ ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้ง ตัวห้องและทรัพย์สินภายใน รวมถึงคุ้มครองบุคคลภายนอก หากเกิดความเสียหายที่ส่งผลต่อผู้อื่น
ไม่ว่าคุณจะอยู่เองหรือปล่อยเช่า การมีประกันคอนโดไว้ คือการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงของคุณ ให้ TIPINSURE ช่วยดูแล เพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างไร้กังวล รายละเอียดเพิ่มเติมที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736