เวียนหัว เหมือนบ้านหมุนเกิดจากอะไรนะ!

อยู่ๆ ก็เวียนหัว มึนงง รู้สึกร่างกายลอยๆ โคลงเคลง แถมยังคลื่นไส้ พะอืดพะอม อาการที่แทบทุกคนต้องเคยเจอกับตัวเองมาบ้าง หรือที่เรียกกันว่า “อาการบ้านหมุน” ที่บางคนเมื่อเกิดอาการเหล่านี้อาจมองเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครก็สามารถเป็นได้ แต่บางครั้งอาการเวียนหัวเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายที่กำลังจะตามมาได้เช่นกัน

อาการบ้านหมุน คืออะไร?

อาการบ้านหมุน (Vertigo) แต่ละคนจะแสดงออกแตกต่างกัน แต่อาการที่รู้สึกได้อย่างชัดเจน คือสิ่งแวดล้อมรอบตัว หรือสิ่งของที่มองเห็นหมุนไปโดยที่ตัวเองอยู่กับที่ ส่งผลให้เกิดความสับสน สูญเสียสมาธิ ขาดการทรงตัว เห็นภาพซ้อน มีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน หูอื้อ มีเสียงวิ้งในหู อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน

สาเหตุของอาการเวียนหัว

สาเหตุของความผิดปกตินี้ มาจากการทำงานผิดปกติของระบบทรงตัวในร่างกาย ซึ่งปกติระบบการรักษาสมดุลของร่างกายจะมาจากการทำงานร่วมกันของอวัยวะของหูและระบบประสาทความรู้สึก หากระบบอวัยวะของหูชั้นในหรือระบบการทรงตัวประสาทส่วนกลางทำงานผิดปกติ ก็ทำให้ร่างกายขาดการทรงตัว จึงเป็นสาเหตุอาการบ้านหมุนนั่นเอง

• โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน หรือโรคเวียนศีรษะขณะเปลี่ยนท่า (Benign Paroxysmal Positional Vertigo : BPPV) เป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการเวียนหัวบ้านหมุนที่พบได้บ่อยที่สุด ที่เกิดจากความเสื่อมของหูชั้นใน อาการเฉพาะของโรคนี้คือเวียนหัวบ้านหมุนที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน ในขณะเปลี่ยนท่าทางของศีรษะ เช่น กำลังล้มตัวลงนอนหรือลุกจากที่นอน เงยหน้า ก้มหยิบของ เป็นต้น แต่อาการมักจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ แล้วอาการจะค่อยๆ หายไป โรคนี้มักสัมพันธ์กับภาวะเครียด อดหลับอดนอน หรืออุบัติเหตุทางศีรษะ 
• โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s Disease) โรคที่เกิดจากความผิดปกติของหูชั้นใน จากการบวมของน้ำในหูชั้นใน ทำให้เกิดอาการเวียนหัวแบบรู้สึกหมุนอย่างรุนแรง เป็นระยะๆ มากกว่า 20 นาที หรือเป็นชั่วโมง  มีเสียงดังในหู การได้ยินลดลงชั่วขณะ ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งในระหว่างที่เกิดอาการควรอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับศีรษะ เพราะอาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะเพิ่มขึ้นได้

สาเหตุอื่นๆ

• การอักเสบของหูชั้นใน (Labyrinthitis) เกิดจากการอักเสบจากเชื้อไวรัสของหูชั้นกลาง ทำให้มีอาการเวียนหัวรุนแรง และหากเป็นการอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย อาการมักรุนแรงมาก ถึงขั้นสูญเสียการได้ยินร่วมด้วย
• โรคเนื้องอกของประสาทการทรงตัว หรือ เส้นประสาทการได้ยิน (Acoustic Neuroma) มีอาการเวียนหัวร่วมกับการได้ยินลดลง บางคนอาจมีเสียงรบกวนในหู สำหรับรายที่มีเนื้องอกขนาดใหญ่และไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยอาจมีอาการชาที่ใบหน้าซีกนั้น อัมพาตของใบหน้า เดินโซเซ หรืออาการทางสมองอื่น ๆ เนื่องจากก้อนเนื้องอกไปกดทับเนื้อสมอง
• โรคเส้นประสาทการทรงตัวในหูอักเสบ (Vestibular Neuronitis) ทำให้เกิดอาการเวียนหัวรุนแรงนานหลายวันถึงสัปดาห์ แต่ไม่ส่งผลต่อการได้ยิน ยังคงได้ยินเป็นปกติ
• กระดูกกะโหลกแตกหัก (Temporal Bone Fracture) เป็นการแตกร้าวของกะโหลก (Cranial Bone) สามารถแบ่งได้หลายประเภท แต่มักเกิดจากสาเหตุร้ายแรงจากการถูกอัดหรือถูกกระแทกที่ศีรษะอย่างรุนแรงจนทำให้กระดูกส่วนศีรษะแตก ซึ่งการแตกร้าวอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่สมอง
• เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ (Vertebra-Basilar Insufficiency) จะมีอาการหน้ามืด มึนงง เวียนศีรษะ คลื่นไส้ และหากปล่อยไว้นานอวัยวะสำคัญต่างๆ ของร่างกายอาจเสื่อมลงได้

ปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อมีอาการเวียนหัว บ้านหมุน

• หากเกิดอาการเวียนหัวบ้านหมุนเฉียบพลันในขณะยืนหรือเดินอยู่ ให้หยุดเดินทันที และหาที่นั่งพักเพื่อป้องกันการล้มและอุบัติเหตุ
• ให้นอนบนพื้นราบ หลับตาแล้วรู้สึกยังเวียนหัวอยู่ให้จ้องมองวัตถุนิ่ง จนกว่าอาการจะดีขึ้น
• หากเกิดอาการบ้านหมุนขณะขับรถ ให้จอดรถข้างทางและเปิดไฟฉุกเฉินทันที นั่งพักเพื่อให้อาการดีขึ้น หรือหากมีอาการอื่นร่วมด้วยให้รีบขอความช่วยเหลือทันที
• หากมีอาการร่วมกับ เวียนหัว บ้านหมุน เช่น พูดไม่ชัด กลืนลำบาก เสียงแหบ แขนขาอ่อนแรง ชา ให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที
• ถ้าผู้ป่วยเคยมีประวัติโรคที่เกี่ยวข้องกับหูชั้นใน เช่น โรคน้ำหูไม่เท่ากัน โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน แนะนำให้ทานยาประจำตัวก่อน หากอาการยังไม่ดีขึ้นให้รีบมาพบแพทย์

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวบ้านหมุน

ลองปรับพฤติกรรมประจำวัน เปลี่ยนท่าทางโดยเฉพาะเวลาลุกนั่ง หรือยืนควรหันศีรษะอย่างช้าๆ หมั่นออกกำลังกาย หากิจกรรมเพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ ระบบไหลเวียนโลหิตจะทำงานได้ดียิ่งขึ้น และหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เวียนหัวมากขึ้น เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ พยายามลดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีนประกอบ งดการสูบบุหรี่

ส่วนใครที่มีโรคประจำตัว ต้องควบคุมโรคประจำตัว เบาหวาน ไขมัน ความดันให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงยาที่ทำให้เกิดอาการเวียนหัว มีผลทำให้ความดันต่ำ

อาการเวียนหัวบ้านหมุน เป็นอันตรายมากหากเกิดในที่ที่อันตราย คุณต้องดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้มาก และหมั่นสังเกตุอาการอยู่เสมอ รวมไปถึงการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ หรือการเข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี ก็จะดีมากๆ และ หาประกันสุขภาพเพื่อให้มีเงินรักษาเมื่อเจ็บป่วยในอนาคต TIPINSURE แนะนำประกันสุขภาพเหมาจ่าย คุ้มครองครอบคลุมทุกการรักษา วางใจค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วย มาวางแผนสุขภาพ เช็กความคุ้มครองได้ที่ TIPINSURE.COM หรือโทร 1736

ขอบคุณข้อมูลจาก : phyathai hospital
ขอบคุณข้อมูลจาก : thainakarin hospital