ขับรถขึ้นเขาใครว่ายาก รวมเทคนิคที่สายเที่ยวธรรมชาติต้องไม่พลาด

จำนวนผู้เข้าชม : 357
Tag:

เทคนิคขับรถขึ้นเขาฉบับมืออาชีพ

 

สำหรับมือใหม่หัดขับอาจรู้สึกว่าการขับรถขึ้นเขาเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก ไหนจะด้วยหนทางที่คดเคี้ยว เส้นทางที่ไม่คุ้นเคย รวมถึงรถจำนวนมากที่ใช้งานเส้นทางเดียวกัน ล้วนเป็นเหตุผลที่ทำให้การขับรถขึ้นเขาไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอนกับเหล่ามือใหม่หัดขับ และยิ่งไปกว่านั้นการขับขึ้นเขายังมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป ตามประเภทเกียร์รถยนต์ที่ใช้งาน แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะวันนี้ TIPINSURE มีวิธีการขับรถขึ้นเขาและลงเข้ามาแนะนำทั้งเกียร์ออโต้ และเกียร์กระปุก ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนพร้อมขับรถขึ้นเขาได้อย่างแน่นอน

วิธีขับรถขึ้นเขาและลงเขาสำหรับเกียร์ออโต้

ลำดับแรกเรามาเริ่มด้วยวิธีการขับรถขึ้นเขาและลงเขาด้วยเกียร์ออโต้กันก่อน เพราะปกติแล้วบนท้องถนนทั่วไป ทุกคนคงได้ใช้เพียงเกียร์ D ในการเดินหน้าเท่านั้น แต่สำหรับการขับขึ้นเขาด้วยเกียร์ออโต้ อาจไม่ใช่แบบนั้นเสียทีเดียว

ขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์ออโต้

วิธีการขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์ออโต้ ต้องใช้งานเกียร์ D เป็นพื้นฐานก็จริง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่า ความเร็วเริ่มลดลง ขาดความเสถียร เร่งไม่ขึ้น ให้เปลี่ยนมาใช้งานเกียร์ D1 หรือ D2 เพื่อให้รถสามารถคงระดับความเร็วไว้ได้ ทั้งนี้การเลือกระดับเกียร์ดังกล่าวในการขึ้นเขา ต้องดูเรื่องความชันอีกทีหนึ่งด้วย พออยู่บนเส้นทางที่ไม่ชันมากแล้ว ก็สามารถกลับมาใช้งานเกียร์ D ได้ตามปกติ

ขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้ 

วิธีการขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้ จะค่อนข้างคล้ายกันกับการขับขึ้นเขาเลย เนื่องจากเราต้องใช้เกียร์ต่ำอย่าง D1 และ D2 สลับกันไปมาเพื่อคงความเร็วรถไว้อย่างเหมาะสม เมื่อใช้เกียร์ต่ำ ความรถเร็วจะเสถียรมากขึ้น มีความเร็วที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้เราขับได้อย่างปลอดภัย และที่สำคัญ ไม่ควรเหยียบคันเร่งค้าง หรือเหยียบเบรกค้างนาน ไม่งั้นอาจทำให้เบรกร้อน จนมีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้

วิธีขับรถขึ้นเขาและลงเขาสำหรับเกียร์กระปุกหรือเกียร์ธรรมดา

ถัดมาเป็นวิธีการขับรถขึ้นเขาและลงขึ้นด้วยเกียร์กระปุกหรือเกียร์ธรรมดา ที่ต้องมีการเข้าเกียร์ เปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสม รวมถึงการเหยียบหรือปล่อยคลัตช์ให้เหมาะสมตลอดการขับขี่ โดยสิ่งสำคัญในการขับขึ้นและลงเขาด้วยรถยนต์เกียร์กระปุกมีดังนี้

ขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์กระปุก

วิธีขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์กระปุก คือ การเปลี่ยนไปใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 สลับกันตามระดับความชันที่เราเจอระหว่างทางขึ้นเขา เพราะทั้ง 2 เกียร์จะช่วยรักษาความเร็วโดยการใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ที่สม่ำเสมอมากกว่าเกียร์สูง 

 

คำแนะนำเพิ่มเติม: หากระหว่างทางขับรถขึ้นเขาต้องมีการหยุดรถ ไม่ว่าจะเกิดเหตุใดก็ตาม เมื่อต้องเดินทางต่ออีกครั้ง ให้เราเข้าเกียร์ 1 และปลดเบรกมือไปพร้อมกัน วิธีนี้จะช่วยให้รถยนต์ที่ใช้เกียร์กระปุกไม่ไหลถอยหลังระหว่างที่เรายกเท้าออกจากคลัตช์นั่นเอง

ขับรถลงเขาด้วยเกียร์กระปุก

ส่วนวิธีการขับรถลงเขาด้วยเกียร์กระปุก ก็สามารถใช้เกียร์ 1 และเกียร์ 2 ตามความเหมาะสมได้เหมือนกัน เพื่อให้เราสามารถควบคุมรถ หรือกะจังหวะเบรกได้ง่ายขึ้น และไม่ควรเข้าเกียร์ว่างเพื่อปล่อยรถไหลไปตามทาง เพราะอาจเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

ข้อแนะนำเพิ่มเติมในการขับรถขึ้นเขาและลงเขา

ข้อแนะนำเพิ่มเติมในการขับรถขึ้นเขาและลงเขา คือ การบังคับรถด้วยความเร็วที่ปลอดภัยสำหรับการขึ้นเขาลงเขา ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ออโต้ หรือเกียร์กระปุก สามารถอ้างอิงได้เหมือนกันดังนี้

  • ความเร็วในการขับขึ้นเขา: ควรมีความเร็วเฉลี่ยที่ประมาณ 50-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยที่เราสามารถควบคุมรถให้อยู่ในเลนได้สม่ำเสมอและปลอดภัย
  • ความเร็วในการขับลงเขา: ควรมีความเร็วเฉลี่ยที่ประมาณ 30-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยทางลาดที่อันตรายกว่าทางขึ้น เราจึงต้องขับให้ช้า เพื่อที่จะควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปบทความ

สรุปวิธีการขับรถขึ้นเขาทั้งเกียร์ออโต้และเกียร์กระปุกนั้นใช้หลักการที่เหมือนกัน เพียงแต่วิธีการควบคุมเกียร์แตกต่างกันออกไปเท่านั้น ใครที่อ่านทำความเข้าใจเรียบร้อย พร้อมขึ้นเขาแล้วก็อย่าลืมตั้งสติก่อนสตาร์ต ลดความประมาท เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนออกเดินทาง รวมถึงการพิจารณาเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 จาก TIPINSURE ที่จะพร้อมช่วยดูแลคุ้มครองทั้งรถ, ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารได้ตลอดเวลา