IPD และ OPD คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร ควรเลือกประกันสุขภาพแบบไหนที่เหมาะกับคุณ

            ประกันสุขภาพ เป็นประกันที่หลายคนให้ความสนใจ เนื่องจากเรื่องของสุขภาพเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญดังคำที่ว่า “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” การทำประกันสุขภาพเอาไว้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่ารักษาพยาบาลเมื่อป่วยไข้ต้องเข้ารับการรักษา โดยเฉพาะประกันสุขภาพแบบครอบคลุมความคุ้มครองทั้ง IPD และ OPD

               ทว่าคำว่า IPD และ OPD ที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์นั้น หลายคนอาจจะยังสับสนและไม่ทราบว่าหมายถึงอะไร แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกประกันสุขภาพที่คุ้มครอง IPD หรือ OPD หรือคุ้มครองทั้งสองแบบ แบบไหนจะคุ้มค่าต่อเบี้ยประกันที่เสียไปมากกว่ากัน

ทำความรู้จัก IPD และ OPD คืออะไร เกี่ยวกับประกันสุขภาพอย่างไร   

IPD คืออะไร

               IPD นั้น ย่อมาจากคำว่า IN PATIENT DEPARTMENT หรือก็คือ “ผู้ป่วยใน” นั่นเอง ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุม IPD นั้นหมายความว่า ครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือขยายความในภาษาที่เข้าใจง่ายๆ คือ ค่ารักษาพยาบาลเมื่อ “ต้องแอดมิดในโรงพยาบาล” นั่นเอง ซึ่งค่ารักษาดังกล่าวก็ได้แก่ ค่าแพทย์ ค่าห้องพัก ค่าวินิจฉัยโรค ค่ายา ค่าอาหาร ค่าน้ำเกลือ ค่าบริการผ่าตัด ค่าหัตถการต่างๆ ค่า X-Ray ค่าบริการทางการแพทย์อื่นๆ

               ตามปกติค่ารักษาพยาบาล IPD จะสูงกว่า OPD เนื่องจากมีเรื่องของค่าห้องพักรักษาตัวในแต่ละวันด้วย

OPD คืออะไร

            OPD นั้น ย่อมาจากคำว่า OUT PATIENT DEPARTMENT หรือก็คือ “ผู้ป่วยนอก” นั่นเอง ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุม OPD นั้น หมายความว่า ครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่างๆ เมื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล แต่เป็นการรักษาพยาบาลแบบที่ “ไม่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล” หรือก็คือ การเข้ารับการรักษาแบบมาพบแพทย์แล้วกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน ส่วนใหญ่ผู้ป่วยแบบ OPD นั้นมักเป็นอาการเจ็บป่วยที่ไม่รุนแรง สามารถหายได้เองแม้แพทย์ไม่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งค่ารักษาดังกล่าวก็ได้แก่ ค่าแพทย์ ค่าหัตถการต่างๆ ค่ายา ค่าบริการอื่นๆ คล้ายๆ กับ IPD เพียงแต่ไม่มีค่าห้องพักหรือค่าอาหาร เนื่องจากไม่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลนั่นเอง

ประกันสุขภาพแบบ IPD กับ ประกันสุขภาพแบบ OPD แตกต่างกันอย่างไร

            ความจริงประกันสุขภาพทั้งแบบ IPD และ ประกันสุขภาพแบบ OPD นั้นให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่ใกล้เคียงกัน เพียงแต่ IPD จะเป็นการให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายเมื่อเป็น “ผู้ป่วยใน” หรือ “ต้องนอนโรงพยาบาล” ขณะที่ OPD นั้นจะให้ความคุ้มครองการรักษาในกรณีที่ “ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล” นั่นเอง

IPD หรือ OPD...ประกันสุขภาพแบบไหนที่เหมาะกับคุณ

            ประกันสุขภาพทั้งแบบ IPD และ OPD มีข้อดีทั้งคู่ เพียงแต่เบิกค่าใช้จ่ายคนละกรณีกัน หากจะเลือกว่าประกันสุขภาพแบบไหนเหมาะกับคุณ ต้องลองพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัย ได้แก่

            ปัญหาสุขภาพของคุณ – สุขภาพของผู้ทำประกันเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่ต้องนำมาพิจารณาในการเลือกว่าจะทำประกันครอบคลุม IPD หรือ OPD หรือคุ้มครองทั้งคู่ ถ้าหากคุณมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วย อาจเลือกทำประกันสุขภาพแบบ OPD ติดเอาไว้บ้าง หรืออาจจะซื้อแบบ IPD เผื่อเกิดเหตุป่วยหนักก็ย่อมได้

            ถ้าหากมีปัญหาสุขภาพแบบเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่ถึงกับป่วยหนัก ก็อาจจะทำประกันสุขภาพแบบเน้นความคุ้มครอง OPD เอาไว้ เนื่องจากมีโอกาสได้ใช้บ่อยกว่า

            หรือถ้าหากมีปัญหาสุขภาพที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลบ่อยๆ และมีแนวโน้มว่าจะต้องเข้าแอดมิดที่โรงพยาบาล การเลือกประกันสุขภาพแบบเน้นความคุ้มครอง IPD ก็ย่อมเหมาะสมและคุ้มค่ามากกว่า

            กำลังทรัพย์ของคุณ – ประกันสุขภาพทั้งแบบ IPD และ OPD มีค่าเบี้ยประกันแตกต่างกัน ถ้าหากคุณมีกำลังจ่ายเบี้ยประกันได้ไม่สูงนัก อาจจะเลือกแบบ OPD ที่เบี้ยประกันน้อยกว่า หรือถ้าหากทุนทรัพย์มากพอ อาจจะเลือกประกันสุขภาพที่ความคุ้มครองครอบคลุมทั้ง IPD และ OPD เลยก็ได้เช่นกัน

            แต่หากมองในอีกแง่หนึ่ง หากซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมทั้ง IPD และ OPD ก็เป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากหากต้องเข้ารับการรักษาไม่ว่าจะแบบ IPD หรือ OPD ก็สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลมาได้ ทำให้ลดภาระค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย

            รายละเอียดความคุ้มครองในกรมธรรม์ - ประกันสุขภาพแต่ละแบบจะมีเงื่อนไขการให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ซึ่งตรงนี้คุณควรอ่านรายละเอียดกรมธรรม์ที่คุณสนใจให้ถี่ถ้วน เพื่อเลือกข้อเสนอที่ดีและตรงใจที่สุด

            อย่างไรก็ตาม ประกันสุขภาพทั้งแบบ IPD และ OPD นั้นต่างก็เป็นประกันสุขภาพที่ให้ผลประโยชน์คุ้มค่าแก่ผู้ทำประกัน ซึ่งในปัจจุบัน ประกันสุขภาพเองก็มีหลายแพ็กเกจให้เลือกตามใจคุณ รวมทั้งประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้ง IPD และ OPD ในเบี้ยประกันที่ไม่สูงมากนัก สามารถนำมาพิจารณาเปรียบเทียบกับประกันสุขภาพแผนอื่นๆ ได้ว่าควรเลือกประกันสุขภาพตัวไหนที่คุ้มค่าสำหรับคุณที่สุด

            หากคุณสนใจทำประกันสุขภาพ สามารถศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คลิก