พร บ ขาด จะเกิดอะไรขึ้นและต้องทำอย่างไร
จำนวนผู้เข้าชม : 19

พร บ ขาด จะเกิดอะไรขึ้นและต้องทำอย่างไร
สำหรับคนที่ขับขี่รถยนตร์ การต่อ พ.ร.บ. หรือทำตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซึ่งจะต้องดำเนินการในทุก ๆ ปี ถือเป็นข้อกำหนดของรัฐที่มีบังคับให้รถทุกชนิดต้องทำประกันภัยภาคบังคับทุกคัน ซึ่งหากปล่อยให้ พ.ร.บ. ขาด จะเกิดผลเสียทั้งต่อผู้ขับขี่ ผู้ครอบครองตลอดจนเพื่อนร่วมท้องถนนในกรณีที่เกิดเหตุคับขันได้เช่น อุบัติเหตุต่าง ๆ ในระหว่างการใช้พาหนะนั้น ๆ ได้ ฉะนั้นในฐานะที่เป็นผู้ใช้งานและเป็นผู้ครอบครองนอกจากการบำรุงรักษารถให้อยู่ในสถานะที่สมบูรณ์จึงควรระมัดระวังไม่ให้ พ.ร.บ. ขาด ด้วยจะดีมาก
พ.ร.บ. รถยนต์ ขาดได้กี่วัน และควรดำเนินการอย่างไร
ในทุกสถานการณ์มีโอกาสเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นได้เสมอ ซึ่งในกรณีของรถยนต์ที่ พ.ร.บ. ขาด หรือต่อ พ.ร.บ. ไม่ทันนั้น ทางกรมการขนส่งจะมีขั้นตอนให้เจ้าของรถได้ดำเนินการยื่นเอกสารเพื่อต่อภาษีให้กับรถยนต์ของตนเองต่อไปอย่างถูกต้องได้ดังนี้
- กรณีที่ขาดไม่เกิน 1 ปี เจ้าของรถสามารถทำการต่อภาษีให้กับรถยนต์ของตนเองได้ทันที ซึ่งในการดำเนินการอาจจะมีค่าปรับเพิ่มเติมในรายละเอียดอื่น ๆ ตามที่เจ้าหน้าที่เห็นสมควร
- กรณีที่ขาดเกิน 2 ปี เจ้าของรถจะต้องนำรถไปตรวจสอบว่ารถมีสมรรถนะในการใช้งานได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้หรือไม่ จากนั้นจะต้องดำเนินการทางเอกสารที่กรมขนส่งซึ่งทางหน่วยงานจะมีการเรียกเก็บค่าปรับเพิ่มเติมในขั้นตอนนี้ โดยเจ้าของจะต้องจัดเตรียมข้อมูลเพื่อใช้ในการดำเนินการต่อ พ.ร.บ. รถ ดังนี้
- ทะเบียนบ้านของผู้ครอบครอง
- สมุดทะเบียนรถ
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ครอบครองรถ
ซึ่งการเตรียมข้อมูลทั้งหมดนี้ได้ครบถ้วนจะทำให้ขั้นตอนต่าง ๆ ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นนั่นเอง
- กรณีที่ พ.ร.บ.ขาดเกิน 3 ปี ขึ้นไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยสำหรับผู้มีรถยนต์ในการครอบครอง เพราะนั่นหมายถึงทะเบียนของคุณอาจจะถูกยึดจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งจะทำให้รถของคุณกลายเป็นรถเถื่อนและผิดกฎหมายทันที สำหรับผู้ที่ต้องการทำการต่อ พร บ ในกรณีที่ไม่ได้ต่อเกิน 3 ปีแล้วจะต้องดำเนินการจดทะเบียนใหม่ทั้งหมดพร้อมกับมีค่าปรับที่ผู้ครอบครองจะต้องทำการชดใช้ต่อภาครัฐต่อไปอีกด้วย โดยมีข้อมูลต่าง ๆ ที่ผู้ครอบครองจะต้องทำการจัดเตรียมให้พร้อมในระหว่างการดำเนินการดังนี้
- ทะเบียนบ้านของผู้ครอบครอง
- สมุดทะเบียนรถ
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ครอบครองรถยนต์คันที่ขาดการต่อ พ.ร.บ. ซึ่งนี่เป็นข้อมูลหลักที่ต้องเตรียมไว้โดยในสถานการณ์จริง ทางเจ้าหน้าที่อาจจะมีการขอข้อมูลเพิ่มเติมในบางกรณีได้ โดยผู้ครอบครองรถสามารถติดต่อกับทางขนส่งเพื่อไขข้อสงสัยในการจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ต้นเลย
ผลเสียที่เกิดจากการปล่อยให้ พ.ร.บ. ขาด
แน่นอนว่าการปล่อยให้ พ.ร.บ. รถ ยนต์ขาดหรือไม่ดำเนินการในระยะเวลาที่กำหนดไว้จะสามารถส่งผลเสียแก่ผู้ครอบครอง ผู้เช่า ผู้ขับขี่และผู้คนบนท้องถนนอื่น ๆ ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินการดำเนินการภายหลังอาจจะได้ไม่คุ้มเสียเลยด้วยซ้ำ โดยผลกระทบหลัก ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการปล่อยให้ประกันภัยบังคับของรถขาด มีดังนี้
- เมื่อเกิดอุบัติเหตุในสถานการณ์ที่ไม่มีคู่กรณี รถที่ไม่มีประกันบังคับจะไม่ได้รับการคุ้มครองหรือเยียวยาใด ๆ ทุกกรณีเช่น การชนรั้ว การชนเสา การตกคูคลองต่าง ๆ
- กรณีที่มีคู่กรณีและรถยนต์ที่ พ.ร.บ. ขาด เป็นฝ่ายผิด คู่กรณีที่ได้รับความเสียหายจะสามารถยื่นเรื่องค่าเสียหายหรือค่ารักษาพยาบาลหน่วยงานที่ทำหน้าที่รับผิดชอบในเบื้องต้นก่อน โดยในภายหลังหน่วยงานเหล่านั้นจะมีอำนาจและหน้าที่โดยตรงในการเก็บค่าเสียหายจากรถที่เป็นฝ่ายผิดต่อไป ซึ่งในข้อบังคับทางกฎหมาย พร บ จะคุ้มครองและจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้คู่กรณีได้ไม่เกิน 15,000 บาทและในกรณีที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้น ๆ พ.ร.บ. จะทำการจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้เสียหายที่มี พร บ ถูกต้องครบถ้วนมากถึง 35,000 บาท
- สำหรับรถที่ไม่ดำเนินการต่อ พร บ ในเวลาที่กำหนด หรือ พร บ ขาดเกิน 3 ปี เมื่อรถวิ่งบนท้องถนนและเจอด่านตรวจจะมีความผิดและต้องโดนเรียกค่าปรับจากตำรวจจราจร ซึ่งถูกกำหนดเอาไว้ในอัตราที่ไม่เกิน 10,000 บาท เรียกว่าเป็นฝันร้ายของผู้ที่กระทำความผิดเลยทีเดียว ฉะนั้นอย่าปล่อยให้เอกสารขาดเลยจะดีกว่า
- เสียเวลาในการดำเนินและอาจจะมีค่าปรับเพิ่มขึ้นในกรณีที่ดำเนินการต่อ พร บ ในภายหลังเช่น จะต้องลางานไปติดต่อกับกรมขนส่ง หรือเดินทางไปตรวจสอบสภาพรถยนต์ซึ่งถือเป็นผลกระทบต่อการทำงาน ในกรณีที่ พ.ร.บ. ขาด เกิน 2 ปีและเกิน 3 ปี ผู้ดำเนินการจะต้องชำระค่าปรับที่จะมีขึ้นในระหว่างการต่อ พร บ ครั้งนั้นด้วย โดยเป็นผลเสียทางด้านค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งหากดำเนินการตามเวลาที่ถูกต้องจะไม่ต้องชำระค่าปรับเหล่านั้นเลยสักบาทเดียว
การต่อ พ.ร.บ. จึงเป็นข้อมูลสำคัญที่ผู้ครอบครองรถยนต์และจักรยานยนต์จะต้องทำในทุก ๆ ปี ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงานกลางต่าง ๆ ที่เข้ามาทำหน้าที่อำนวยความสะดวกต่อผู้ที่ต้องการต่อ พร บ ทั้งรูปแบบปกติและแบบผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งผู้ดำเนินการจะต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้ครบถ้วน หรือหากรถของท่านเกิด พ.ร.บ. ขาด ไปแล้ว แต่ไม่เกิน 3 ปีก็สามารถดำเนินการต่อ พ.ร.บ. ย้อนหลังได้ โดยจะต้องเตรียมข้อมูลต่าง ๆ ตามที่ได้กล่าวไว้ในบทความข้างต้น ซึ่งการมี พร บ ที่ถูกต้องนั้น จะทำให้ผู้ที่ครอบครองได้รับการคุ้มครองจากอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาลจากประกันภัยภาคบังคับได้อย่างสมบูรณ์ ตลอดจนเป็นการปฏิบัติตามข้อบังคับทางกฎหมายซึ่งจะไม่ต้องเสียค่าปรับใด ๆ จากหน่วยงานจราจรที่มีหน้ากวดขันและตรวจสอบความถูกต้องของรถทุกคัน ซึ่งนั่นจะทำให้การใช้รถบนท้องถนนของคุณดำเนินไปอย่างปลอดภัยและได้รับการคุ้มครองตามที่กฎหมายกำหนดนั่นเอง
ใครยังไม่ได้ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ สามารถต่อออนไลน์ได้แล้วง่ายๆ ผ่าน TIPINSURE ราคาเริ่มต้นเพียง 569 บาทเท่านั้น ซื้อแล้วรอรับกรมธรรม์ทางอีเมลได้เลยทันที ซื้อออนไลน์ได้เลย คลิก