เจาะลึกเรื่องของประกันรถยนต์ไฟฟ้า
จำนวนผู้เข้าชม : 26

ตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับประกันรถยนต์ไฟฟ้า
รถไฟฟ้า EV ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน เพราะช่วยเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมัน จึงเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า โดยใช้การชาร์จไฟฟ้าแทนการเติมน้ำมันนั่นเอง หากมีการใช้รถอยู่เป็นประจำ ประกันรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้อย่างแน่นอน ในบทความนี้จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับประกันรถไฟฟ้า ว่าเบี้ยประกันแพงกว่ารถธรรมดาจริงหรือ แล้วประกันรถยนต์ธรรมดาสามารถคุ้มครองรถยนต์ไฟฟ้าด้วยหรือไม่
ทำความเข้าใจประกันรถยนต์ไฟฟ้า
ประกันรถยนต์ไฟฟ้านั้นก็จะมีความคล้ายกับ ประกันรถยนต์ธรรมดาทั่วไป คือจะให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไขประกันที่เลือก เช่น คุ้มครองผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณี คุ้มครองรถสูญหาย ไฟไหม้ แต่ก็จะมีความคุ้มครองในบางข้อที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้งานในรถยนต์ไฟฟ้านั่นเอง เช่น การประกันที่คุ้มครองความเสียหาย หรือสูญหายต่อสายชาร์จรถยนต์ หรือเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน เป็นต้น
รถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร?
รถยนต์ไฟฟ้า Electric Powered Vehicle หรือ EV คือ รถยนต์ที่จะใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนแบบ 100% โดยไม่ใช้น้ำมันในการเผาไหม้ ช่วยลดมลพิษในอากาศได้อย่างดี ระบบการทำงานต่างๆ นั้นก็ไม่ได้น้อยไปกว่ารถยนต์ธรรมดาทั่วไป รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า EV ยังมีการเสียภาษีน้อยกว่ารถยนต์ธรรมดาทั่วไป
รถยนต์ไฟฟ้า EV จึงเป็นอีกทางเลือกที่ทำให้หลายคนสนใจอย่างมาก ทำให้มีหลายผู้ผลิตหันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการมากขึ้นด้วย นอกจากนี้รถยนต์ไฟฟ้ายังมีข้อดีอีกหลายข้อ เช่น
-
เสียงเงียบ ไม่มีควัน เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าใช้แบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้รถนั้นเงียบ หรือมีเสียงเบากว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเครื่อง และยังไม่ปล่อยควัน ไม่เกิดไอเสียจากการเผาผลาญพลังงานด้วย
-
ประหยัดน้ำมัน ในจุดนี้เป็นอีกข้อดีที่ทำให้หลายคนหันมาสนใจใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพราะช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มาก แล้วหันมาใช้การชาร์จไฟฟ้าตามบ้าน หรือแท่นชาร์จตามจุดบริการต่าง ๆ
-
ออกตัวนุ่มนวล ขับขี่สบาย เพราะใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ขณะเร่งความเร็ว หรือออกตัวจึงไม่กระชาก
รถยนต์ไฟฟ้าก็จำเป็นต้องทำประกัน
รถยนต์ไฟฟ้าก็ถือเป็นยานพาหนะที่ใช้ขับขี่อยู่บนท้องถนนเหมือนกับรถยนต์ธรรมดา ซึ่งก็มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน การทำประกันรถเอาไว้ก่อน จึงช่วยลดเรื่องค่าใช้จ่ายได้อย่างดี หากเกิดความเสียหายไม่ว่าจะเป็นกับรถ ทรัพย์สิน ผู้ขับขี่ ผู้โดยสารหรือคู่กรณี ประกันก็สามารถช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ ตามเงื่อนไขที่ผู้ถือประกันทำไว้
ทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าแบบไหนดี?
การเลือกประกันรถไฟฟ้า EV นั้นก็จะมีปัจจัยที่ควรต้องพิจารณาถึงหลาย ๆ เรื่อง ทั้งเรื่อง เบี้ยประกัน ความคุ้มครอง ทุนประกัน หรือเงื่อนไขอื่น ๆ
-
ความคุ้มครองตามที่ต้องการ
อย่างแรกนั้นคือการดูที่ความคุ้มครอง บริษัทประกันที่เลือกมีความคุ้มครองตามที่ต้องการหรือไม่ เช่น การคุ้มครองเรื่องแบตเตอรี่ การชาร์จไฟ เครื่องชาร์จรถยนต์ อุบัติเหตุจากการใช้งานเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน และสถานีชาร์จสาธารณะ รวมถึงเรื่องการคุ้มครองอะไหล่ต่าง ๆ ของรถยนต์ไฟฟ้าด้วย จึงควรดูว่าบริษัทประกันไหน ที่ให้ความครอบคลุมแบบที่คุณต้องการได้
-
เบี้ยประกันคุ้มค่า
เบี้ยประกันรถเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หลายคนให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน จึงควรพิจารณาเลือกเบี้ยประกันที่เหมาะ และคุ้มค่ากับความคุ้มครอง และคุณสามารถจ่ายเบี้ยประกันได้ไหว ยิ่งความคุ้มครองมากเท่าไหร่ ก็ย่อมทำให้เบี้ยประกันสูงตามไปด้วย จึงควรพิจารณาในจุดนี้ให้ดี เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด
-
ทุนประกันที่ครอบคลุม
อีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกประกันรถ คือมีทุนประกันภัยมากน้อยเพียงใด หากต้องการการคุ้มครองที่ครอบคลุม สะดวกสบาย ได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ ทุนประกันก็สูงขึ้นเท่านั้น ก่อนการทำประกันจึงควรตรวจสอบให้ดีว่า ทุนประกันที่ได้รับนั้นคุ้มค่าหรือไม่
-
ศูนย์ซ่อมบำรุงเพียงพอ
แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ศูนย์ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าก็ยังไม่ได้มีอยู่ทั่วไป เหมือนศูนย์รถยนต์ปกติ ก่อนการเลือกทำประกันของแต่ละบริษัท จึงต้องดูว่ามีความสะดวกในการประสานงานกับศูนย์ซ่อมต่าง ๆ มากแค่ไหน จึงควรเลือกให้มีศูนย์ซ่อมในเครือข่ายจำนวนมาก ๆ เพื่อความสะดวกสบายในการนำรถไปซ่อม หรือตรวจเช็กสภาพรถ
เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าแพงกว่ารถธรรมดาหรือไม่?
ประกันรถยนต์ทั่วไปคุ้มครองรถยนต์ไฟฟ้าด้วยหรือไม่?
