10 ข้อผิดพลาดที่นักขับมือใหม่มักทำไม่รู้ตัว

จำนวนผู้เข้าชม : 15
Tag:

10 ข้อผิดพลาดที่นักขับมือใหม่มักทำไม่รู้ตัว


แม้จะผ่านการสอบใบขับขี่มาแล้ว อย่าพึ่งคิดว่าตัวเองขับรถเป็น ความเป็นจริงการขับอย่างปลอดภัยยังต้องเรียนรู้จากสถานการณ์จริงอีกมาก โดยเฉพาะนักขับมือใหม่ ที่แม้จะตั้งใจขับรถอย่างดี แต่ก็ยังอาจเผลอทำพฤติกรรมที่เสี่ยงโดยไม่รู้ตัว

อย่างการขับไม่ถูกเลน ไม่เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ อย่างลืมเปิดไฟเลี้ยวสิ่งเหล่านี้อาจกลายเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุได้ในพริบตา ความประมาทเล็กน้อยบวกกับประสบการณ์ที่ยังไม่มากพอ ทำให้มือใหม่หลายคนเผลอทำพฤติกรรมเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว มาดูกันว่า คุณพลาดข้อไหนไปแล้วบ้าง?

1. ไม่เว้นระยะจากคันหน้า

หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบบ่อยมากบนท้องถนน คือ การขับตามหลังรถคันหน้าในระยะที่ใกล้เกินไป หรือภาษาทั่วไปที่เรียกกันว่าขับจี้ โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเองและคนอื่นโดยไม่รู้ตัว

หลายคนมักคิดว่าถ้าปล่อยให้มีช่องว่างมากเกินไปจะโดนคันอื่นแทรก ทำให้พยายามขับให้ชิดมากที่สุดเพื่อรักษาเลน หรือป้องกันไม่ให้คันอื่นมาเบียดเข้ามา ซึ่งการทำแบบนี้ยิ่งทำให้เกิดอันตรายมากกว่า เพราะหากรถคันหน้าหยุดกะทันหันด้วยเหตุผลใดๆ เช่น มีคนตัดหน้า มีอุบัติเหตุ หรือมีสิ่งกีดขวางบนถนน นักขับที่ตามหลังมาใกล้เกินไปจะไม่มีระยะพอในการเบรก และอาจชนท้ายโดยไม่ทันตั้งตัว
การชนท้ายไม่ใช่แค่ทำให้รถเสียหาย แต่ยังเป็นเหตุที่ฝ่ายตามหลังจะถูกมองว่าผิดในทางกฎหมายจราจรอีกด้วย

 

2. ใช้กระจกมองข้างน้อยเกินไป

การขับขี่อย่างปลอดภัยจำเป็นต้องใช้กระจกมองข้างทั้งสองฝั่งร่วมด้วยเสมอ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว สิ่งที่อันตรายมากคือ “มุมอับสายตา” (Blind Spot) พื้นที่ข้างตัวรถที่แม้จะมองจากกระจกแล้วก็ยังมองไม่เห็นได้ชัด เช่น รถจักรยานยนต์ที่ขี่ขนานอยู่ด้านข้าง หรือรถที่กำลังจะเร่งแซงในระยะประชิด ถ้าคุณไม่หันมองหรือไม่ใช้กระจกข้างอย่างเหมาะสม อาจตัดหน้าโดยไม่ตั้งใจและทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

อีกกรณีที่มักพบบ่อยคือการเปลี่ยนเลนบนทางด่วนหรือทางที่มีรถวิ่งเร็ว หากไม่เช็กกระจกข้างและไม่หันมองข้างไหล่ก่อนเปลี่ยนเลน ก็อาจชนกับรถที่กำลังวิ่งเข้ามาในจังหวะเดียวกันโดยไม่รู้ตัว

 

3. เบรกแรงเกินไป หรือบ่อยเกินเหตุ

นักขับมือใหม่มักขับด้วยความกังวลและไม่มั่นใจ ทำให้เหยียบเบรกถี่ หรือเบรกแรงเกินจำเป็น โดยเฉพาะเวลามีรถอยู่ใกล้ๆ หรือไม่แน่ใจว่าจะเลี้ยวตรงไหน ส่งผลให้รถคันหลังที่ตามมาเบรกกระทันหัน เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุชนท้าย

ควรฝึกควบคุมความเร็วให้เหมาะสม จะช่วยลดการเบรกกะทันหันลงได้มาก และคาดการณ์ล่วงหน้า เช่น ถ้ารู้ว่าข้างหน้ามีสี่แยก ให้เริ่มถอนคันเร่งแต่เนิ่นๆ


4. ขับช้าในเลนขวา

นักขับมือใหม่จำนวนไม่น้อยมักเข้าใจผิดว่า เลนขวาคือเลนสำหรับขับเรื่อยๆ เพราะโล่งกว่า หรือรู้สึกว่าปลอดภัยกว่าการขับชิดซ้าย แต่จริงๆ แล้วเลนขวาคือ เลนแซง ตามกฎหมายจราจร ซึ่งใช้เฉพาะเวลาจำเป็น เช่น แซงรถช้าด้านซ้าย หรือเปลี่ยนเลนเพื่อเลี้ยวขวาเท่านั้น

การขับช้าในเลนขวาทำให้รถที่ต้องการแซงต้องเบรกหรือเบี่ยงออกเลนอื่น เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะบนทางด่วนหรือถนนที่มีความเร็วสูง อีกทั้งยังทำให้การการจราจรติดขัด

 

5. ลืมเปิดไฟเลี้ยวก่อนเปลี่ยนทิศทาง

ไฟเลี้ยวสัญญาณในการสื่อสารบนท้องถนน แต่หลายคนโดยเฉพาะมือใหม่มักละเลย ลืมเปิดไฟเลี้ยวขอทางก่อนจะเลี้ยว เปลี่ยนเลน หรือเข้าซอย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุ เพราะทำให้ผู้ร่วมทางไม่รู้ว่าคุณจะไปทางไหน และไม่สามารถชะลอหรือหลบได้ทัน ยิ่งในกรณีที่มีรถจักรยานยนต์อยู่ใกล้ๆ หรืออยู่ในจุดอับสายตา การไม่เปิดไฟเลี้ยวอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ง่าย

 

6. ตกใจง่ายเมื่อได้ยินเสียงแตร

สำหรับนักขับมือใหม่เสียงแตรจากรถคันอื่นมักทำให้ตกใจจนตัดสินใจผิดพลาด เช่น เบรกกระทันหัน หักพวงมาลัย หรือเปลี่ยนเลนแบบฉับพลัน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุโดยไม่ตั้งใจได้

เสียงแตรไม่ใช่สัญญาณด่าหรือเร่งเสมอไป แต่เป็นการเตือนให้ระวัง ดังนั้นต้องแยกให้ออกว่าเสียงนั้นมาจากสถานการณ์ไหน และตั้งสติให้มั่นก่อนตัดสินใจ

 

7. ความเร็วไม่คงที่

หนึ่งในพฤติกรรมที่สังเกตได้ง่ายของนักขับมือใหม่ คือ การเร่งบ้าง เบรกบ้าง ขับไม่สม่ำเสมอ ที่เกิดจากความไม่มั่นใจในสถานการณ์รอบตัว หรือความลังเลเมื่อเจอสิ่งที่ไม่คุ้นเคย เช่น สี่แยก ทางแคบ รถจอดข้างทาง หรือมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งสวนเลน พฤติกรรมนี้ทำให้รถคันหลังคาดเดาไม่ได้ว่าคุณจะชะลอหรือเร่งเมื่อไหร่ และอาจทำให้เบรกไม่ทัน เกิดการเบียดชนได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงที่มีรถหนาแน่น หรือใช้ความเร็วสูง

ควรพยายามขับด้วยความเร็วคงที่ ให้สอดคล้องกับสภาพจราจร ฝึกคาดการณ์ล่วงหน้า เช่น หากเห็นว่าข้างหน้ารถเริ่มชะลอ ให้ถอนคันเร่งแต่เนิ่นๆ แทนการเบรกกระทันหัน

 

8. ลืมตรวจเช็กรถก่อนเดินทาง

หลายคนมักเข้าใจว่ารถใหม่ไม่ต้องเช็กก็ขับได้ หรือขับแค่ใกล้ๆ ไม่เป็นไรหรอก การละเลยการตรวจเช็กรถเบื้องต้นก่อนออกเดินทาง คืออีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้รถเสียกลางทาง หรือเกิดอุบัติเหตุได้โดยไม่คาดคิด

เช็กเบื้องต้นก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง โดยเฉพาะก่อนขับทางไกล เช่น ลมยาง ระดับน้ำในหม้อน้ำ น้ำล้างกระจก น้ำมันเบรก น้ำมันเครื่อง หากไม่มั่นใจให้เข้าศูนย์ตรวจเดือนละครั้ง

 

9. ไม่รู้กฎจราจร

แม้จะผ่านการสอบใบขับขี่มาแล้ว แต่นักขับมือใหม่จำนวนมากยังไม่เข้าใจกฎจราจรบางข้อ โดยเฉพาะกฎจราจรที่ไม่ได้เน้นในบทเรียน เช่น

  • การใช้วงเวียน  ไม่รู้ว่าคันที่อยู่ในวงเวียนมีสิทธิผ่านก่อน ทำให้เกิดการตัดหน้าแบบอันตราย
  • การให้ทางทางเอก–ทางโท ขับออกจากซอยโดยไม่หยุดรอรถทางหลัก
  • การจอดชิดขอบทางผิดฝั่งหรือในที่ห้ามจอด –อาจโดนปรับ หรือขวางการจราจรโดยไม่ตั้งใจ
  • การกลับรถในที่ห้ามกลับ หรือใช้ช่องทางฉุกเฉินผิดวัตถุประสงค์

พฤติกรรมเหล่านี้แม้จะดูเล็กน้อย แต่ส่งผลต่อความปลอดภัยและการไหลลื่นของจราจรโดยรวม

 

10. ไม่กล้าตัดสินใจ

หนึ่งในพฤติกรรมที่สังเกตได้ชัดเจนของนักขับมือใหม่ คือความลังเลเมื่อต้องตัดสินใจบนถนน เช่น หยุดกลางแยกเพราะไม่มั่นใจว่าจะไปทางไหน หรือเปลี่ยนใจบ่อย เปลี่ยนเลนไปมาเพราะกลัวพลาดเส้นทาง ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะรถคันอื่นไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้เกิดเหตุชน หักหลบ หรือเบรกกระทันหันตามมา

 

การขับรถยนต์ไม่ได้จบแค่การสอบใบขับขี่ผ่าน แต่ต้องอาศัยการฝึกฝน การสังเกต การตัดสินใจในสถานการณ์จริง และการขับขี่อย่างปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องของทักษะ แต่คือความรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่นบนท้องถนน และเมื่อมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น สิ่งที่จะช่วยให้คุณอุ่นใจได้มากขึ้น คือ การมีประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมและไว้ใจได้ จากทิพยประกันภัย ที่สุดของความคุ้มครองครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736