“เติมน้ำมันผิด” ชีวิตเปลี่ยนจริงหรือไม่

    รถยนต์แบ่งเครื่องยนต์เป็นสองประเภท คือ “เบนซิน” กับ “ดีเซล” ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลและเบนซิลไม่สามารถเติมเชื้อเพลิงทดแทนกันได้ (บางกรณีหากฉุกเฉิน เครื่องยนต์สมัยเบนซิลสมัยใหม่จะมีการระบบรองรับการเติมแบบดีเซลก็สามารถเติมสำรองได้เช่นกัน) ซึ่งปัจจุบันนี้น้ำมันมีชื่อเรียกค่อยข้างหลากหลายประเภทบางทีอาจเกิดการสับสนในการเรียกชื่อสำหรับมือใหม่หัดขับรถ หากเกิดเรียกชื่อผิดหรือเด็กปั๊มเติมพลาดจะต้องแก้ไขอย่างไร ระบบเผาไหม้จะพังทันทีเลยหรือไม่ TIP Lady มีคำตอบมาฝาก

1.ทำรู้จักความแตกต่างของน้ำมันเชื้อเพลิง “ดีเซล” กับ “เบนซิล”

     น้ำมันดีเซลแตกต่างกับน้ำมันเบนซิล ค่อนข้างมาก ตั้งแต่ในด้านของการส่งเชื้อเพลิงและการจุดระเบิดอัตราส่วนกำลังอัดกระทั่งการออกแบบชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ทั้งสองก็แตกต่างกัน ส่วนการนำ “เครื่องยนต์ดีเซล” ไปเติม “น้ำมันเบนซิน” นั้นจะสามารถขับขี่ไปได้ระยะหนึ่งแต่สุดท้ายแล้วรถก็จะดับลง เพราะน้ำมันเบนซินนั้นมีการเผาไหม้เกิดขึ้นเร็วเกินไปกว่าที่เครื่องยนต์ดีเซลได้ออกแบบมาและน้ำมันเบนซินนั้นจะลุกไหม้เร็วมากกว่าน้ำมันดีเซลเมื่อถูกฉีดออกมาในห้องเผาไหม้ แต่ไม่ได้ลุกไหม้ตอนกำลังโดนลูกสูบอัดเพราะเครื่องดีเซลอัดด้วยอากาศล้วนๆ ส่งผลให้จังหวะไม่ถูกต้องและก็เกิดการลุกไหม้ก่อนลูกสูบ ทำให้เครื่องยนต์ดับลงในที่สุด

2. เมื่อเติมน้ำมันผิดประเภท จะเกิดอะไรขึ้น

     2.1 หัวเทียน , ไส้กรอง และระบบเครื่องยนต์ จะได้รับความเสียหาย เครื่องยนต์เบนซินให้ถอดหัวเทียนออกมาทำความสะอาด ส่วนรถดีเซลให้เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่

    2.2 รถยนต์เริ่มมีอาการสะดุดและเครื่องดับ แม้จะพยายามสตาร์ทก็จะไม่ติด 

3. หากรู้ตัวว่าเติมน้ำมันผิดประเภท ต้องทำอย่างไร

    3.1 ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์เด็ดขาดหรือพยายามสตาร์ทเครื่องยนต์ เพราะน้ำมันเบนซินจะเข้าไปในระบบลึกขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้ปัญหาขยายวงกว้างและแก้ไขยากขึ้น

    3.2 ให้ติดต่อกับทางปั๊มโดยเร็วที่สุดเพื่อถ่ายน้ำมันที่อยู่ในถังออกให้หมด  เพราะระยะทางจากปั๊มจนเกิดอาการไม่น่าจะไกลไปกว่า 5 กม. และต้องเป็นช่างที่มีประสบการณ์เท่านั้นในการมาถ่ายน้ำมันออก หลังจากถ่ายน้ำมันเสร็จ ให้ตรวจสอบด้วยว่าน็อตถังน้ำมันถูกขันกลับไปแน่นสนิทดี เพื่อไม่ให้มีการรั่วซึมของน้ำมัน

    3.3 หากรถมีประกันก็ให้เรียกใช้บริการ เพื่อลดปัญหาการเจรจาความกับปั๊ม หรือประกันคู่กรณี พร้อมทั้งให้ปั๊มออกหนังสืออย่างเป็นทางการว่าได้เติมน้ำมันให้ผิดจริง

    3.4 เติมน้ำมันที่ถูกต้องเข้าไปใหม่โดยเลือก “เติมน้ำมันที่ใช้ประจำกลับเข้าไป”

เพื่อไล่ระบบน้ำมันใหม่ทั้งหมด หลีกเลี่ยงความเสียหายในกรณีที่มีน้ำมันเบนซินปนเข้าไปในห้องเผาไหม้ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงถึงห้องเครื่อง

      3.5 สตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้พร้อมสังเกตดูว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ พร้อมเปิดระบบไฟหน้า แอร์ วิทยุ เช็คอาการรถว่า เพราะน้ำมันที่เติมอยู่อาจยังเคลือบในถังน้ำมัน การสตาร์ทเครื่องค้างไว้จึงควรทำเพื่อให้น้ำมันใหม่ไล่น้ำมันเก่าออกไปให้หมดก่อน

     3.6 ทดสอบการขับ ด้วยการลองขับรถอย่างช้าๆก่อน พร้อมกับเปิดฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ต้องใช้ขณะขับหากไม่มีสิ่งผิดปกติใดเกิดขึ้น

4. วิธีป้องกัน

    4.1 เจ้าของรถควรทำความเข้าใจเรื่องของประเภทเครื่องยนต์ของตัวเองว่าต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทไหนถึงจะถูกต้องสำหรับรถยนต์

    4.2 สติกเกอร์ติดที่ฝาถัง ถึงประเภทของน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์

    4.3 แจ้งเด็กปั๊มทราบแบบชัดเจนว่าต้องการเติมน้ำมันอะไร รวมทั้งลงไปดูด้วยตัวเองว่าเติมให้ถูกต้องจริงหรือไม่ หากไม่สะดวกลงจากรถยนต์ให้สังเกตุที่ตู้จ่ายน้ำมันพร้อมดูชื่อของประเภทน้ำมันที่ติดอยู่ที่ตู้เติมว่า เด็กปั๊มใช้หัวจ่ายน้ำมันถูกหรือไม่ก่อนเติมเข้ารถ

    4.4 ขอใบเสร็จทุกครั้งที่เติม เพื่อไม่ให้มีข้อโต้แย้งใดๆ ในกรณีที่เป็นปั๊มต่างจังหวัดหรือปั๊มที่ไม่มีกล้องวงจรปิด เวลาเติมผิดจะได้มีหลักฐานในการโต้แย้งเรียกร้องค่าเสียหาย

    4.5 เลือกเติมน้ำมันในปั๊มประจำ จะทำให้รู้สึกอุ่นใจในการเลี้ยวเข้าเลนเติม และแน่ใจได้ว่าไม่ผิดหัวจ่ายแน่นอน

    หลายคนอาจคิดว่าสมัยนี้แล้วจะมีการเติมน้ำมันผิดได้อย่างไรในเมื่อหัวจ่ายของทั้งสองตัวมีความต่างกันและช่องเติมที่รถยนต์เล็กใหญ่ไม่เท่ากัน แต่หากคุณเจอเด็กปั๊มมือใหม่หรือคุณเป็นคนขับมือใหม่อาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้จึงควรเข้าใจวิธีการแก้ไขไว้เบื้องต้น และสำหรับใครที่เติมน้ำมันที่ปั๊ม PTT อยู่แล้วตอนนี้ทาง TIP Lady มีโปรโมชั่นสำหรับผู้ที่สนใจทำประกันรถยนต์ถึง 2 ต่อ ต่อที่ 1 กับส่วนลด 10% ต่อที่ 2 เลือกรับบัตรเติมน้ำมันปตท. สูงสุด 5,000 บาท สนใจสมัครโทร. 1736 หมดเขต 30 มิถุนายน 2562 นี้เท่านั้น โปรดีๆ แบบนี้ไม่ควรพลาด