อัปเดต 2566 ใบอนุญาตขับขี่หมดอายุต้องรีบไปต่อภายในระยะเวลากี่วัน
จำนวนผู้เข้าชม : 33288

อัปเดต 2566 ใบอนุญาตขับขี่หมดอายุต้องรีบไปต่อภายในระยะเวลากี่วัน
ใบอนุญาตขับขี่ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ใช้รถในการสัญจรไปมาบนท้องถนน แต่หากว่าใบอนุญาตขับขี่หมดอายุและไม่ไปต่อในระยะเวลาที่กำหนดจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ในปี 2566 ผู้ที่ใบอนุญาตขับขี่หมดอายุควรไปต่อให้ทันภายในระยะเวลากี่วันนั้นในบทความนี้เรามีคำตอบมาให้
ใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ สามารถไปต่อได้ที่ไหนบ้าง
หากว่าใบอนุญาตขับขี่หมดอายุในปี 2566 ผู้ต้องการต่อใบอนุญาตขับขี่สามารถเข้าไปจองคิวผ่านแอป DLT Smart Queue ไว้ล่วงหน้า หรือจะ Walk-in เข้าไปที่กรมขนส่งใกล้บ้านก็ได้ แต่ถ้ากรณี Walk-in แล้วไม่สามารถดำเนินการทันภายในวันนั้น ทางกรมขนส่งจะทำการนัดคิวใหม่ให้เราแทน ซึ่งอาจจะทำให้เสียเวลาโดยแนะนำว่าให้จองคิวผ่านแอปจะสะดวกสบายกว่าการ Walk-in เข้าไปเลย
ขั้นตอนการต่อใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ
สำหรับผู้ที่ต้องการต่อใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ หลังจากจองคิวผ่านแอป DLT Smart Queue หรือ Walk-in เข้าไปจองคิวที่กรมขนส่งมาแล้ว สามารถต่อใบขับขี่ใหม่ได้ตามขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้
- เตรียมเอกสารสำคัญในการต่อใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ
- ทำการยื่นเอกสาร และออกคำขอต่อใบขับขี่ที่กรมการขนส่งทางบก
- เข้ารับการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่ การมองสี การมองทางลึกทางกว้าง และปฏิกิริยาการใช้เบรก
- อบรมวินัยจราจร 1 ชั่วโมง (กรณี Walk-in)
- ชำระค่าธรรมเนียม
- ถ่ายรูปพิมพ์หน้าบัตร
ต่อใบอนุญาตขับขี่ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
ผู้ที่ใบอนุญาตขับขี่หมดอายุจะต้องทำการเตรียมเอกสารสำคัญให้ครบก่อนไปยื่นขอต่อใบอนุญาตขับขี่กับกรมขนส่ง ดังนี้
- กรณีจองคิวผ่านแอป DLT Smart Queue ให้แคปหน้าจอการผ่านการอบรมและผลการทำแบบทดสอบมาด้วย
- เตรียมใบขับขี่ฉบับเดิมที่หมดอายุ และสำรองสำเนาไว้สัก 1-2 แผ่น
- เตรียมบัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนาถูกต้อง
- กรณีที่ต้องการเปลี่ยนระยะเวลาต่อใบขับขี่จาก 2 ปีเป็น 5 ปี จะต้องใช้ใบรับรองแพทย์มาใช้ยื่นร่วมด้วย
ใบอนุญาตขับขี่หมดอายุนานเท่าไรถึงต้องเสียค่าปรับ
กรณีใบอนุญาตขับขี่หมดอายุและต่อล่าช้าจนเกินระยะเวลาที่กำหนด จะไม่มีการเสียค่าปรับในการดำเนินการต่อที่กรมขนส่ง แต่จะมีบทลงโทษหากมีการขับขี่รถบนท้องถนนในขณะที่ใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ เป็นค่าปรับตามกฎจราจรสูงสุดถึง 2,000 บาท
ขาดต่อใบอนุญาตขับขี่หมดอายุได้กี่วัน
แม้จะไม่มีการเสียค่าปรับในการต่อใบอนุญาตขับขี่หมดอายุเกินระยะเวลาที่กำหนด แต่ก็อย่าชะล่าใจจนไม่ไปต่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะอาจมีขั้นตอนการขอต่อที่ยุ่งยากเพิ่มเข้ามาตามระยะเวลาที่ขาดต่อแทน โดยระยะเวลาที่ควรไปต่อใบอนุญาตขับขี่หมดอายุที่เหมาะสม คือ
- กรณีใบอนุญาตขับขี่หมดอายุแล้ว แต่ไม่เกินระยะเวลา 1 ปี สามารถยื่นคำขอต่อใบขับขี่ได้ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
- กรณีใบอนุญาตขับขี่หมดอายุเกินระยะเวลา 1 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกินระยะเวลา 3 ปี จะต้องทำการสอบข้อเขียนใหม่
- กรณีใบอนุญาตขับขี่หมดอายุเกินระยะเวลา 3 ปีขึ้นไป จะต้องเข้ารับการอบรม สอบข้อเขียนใหม่ และทดสอบขับรถใหม่ทั้งหมด รวมทั้งยังต้องยื่นเอกสารใบรับรองแพทย์เพิ่มด้วยนั่นเอง
- กรณีใบอนุญาตขับขี่ยังไม่หมดอายุแต่ใกล้หมดอายุแล้ว สามารถขอต่อล่วงหน้าได้ 3 เดือน
หากใบอนุญาตขับขี่หมดอายุจะเกิดอะไรขึ้น
ไม่ว่าจะลืมพกใบอนุญาตขับขี่ ใบอนุญาตขับขี่หาย ไม่ได้ทำใบอนุญาตขับขี่ ใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ เมื่อขับรถออกไปสัญจรบนท้องถนนสาธารณะล้วนแต่เป็นกรณีที่ถือว่าผิดกฎหมายและมีบทลงโทษทั้งนั้น ซึ่งโทษตามกฎหมายจะแตกต่างกันไปตามแต่กรณี ดังนี้
- กรณีขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ถือว่าทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 64 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน และปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- กรณีขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตหมดอายุ ถือว่าทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 65 จะถูกยึดใบอนุญาตขับขี่ และมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
- กรณีไม่แสดงใบอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หรือไม่ได้พกใบอนุญาตขับขี่ ถือว่าทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ เคลมประกันรถยนต์ได้ไหม
สำหรับผู้ที่มีประกันรถยนต์แต่ใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ และเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะสามารถขอเคลมประกันรถยนต์ได้หรือไม่ คำตอบก็คือ “ขอเคลมได้” หากเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่คุ้มครองทุกกรณี แต่ก็ขึ้นอยู่กับแผนประกันรถยนต์ของแต่ละบริษัทด้วย ว่ามีเงื่อนไขการคุ้มครองครอบคลุมมากน้อยแค่ไหน
แต่หากอยากได้ความคุ้มครองทุกกรณี เราขอแนะนำให้ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ TIPINSURE เพราะสามารถขอเคลมได้ทุกกรณี ไม่ว่าจะลืมพกใบอนุญาตขับขี่ ใบอนุญาตขับขี่หาย ใบอนุญาตขับขี่หมดอายุเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เราก็เคลียร์ให้ได้ทุกปัญหา เพื่อให้ผู้ทำประกันได้รับความสบายใจขณะขับขี่บนท้องถนน ทั้งยังมีแผนประกันรถยนต์อีกมากมายให้เลือกตามความชอบและไลฟ์สไตล์การขับขี่ เพียง ซื้อออนไลน์ง่าย ๆ ได้เลยที่ www.TIPINSURE.com