ขั้นตอนสอบใบขับขี่รถยนต์ 2560
จำนวนผู้เข้าชม : 119167

ขั้นตอนสอบใบขับขี่รถยนต์ 2560 มีอะไรบ้าง มาเรียนรู้วิธีสอบใบขับขี่รถยนต์ 2560 ไปสอบจริงจะได้ไม่ลำบาก
1. การจองคิวอบรม
กรุงเทพฯ และปริมณทล มี 5 พื้นที่ ได้แก่
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 (ฝั่งตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร)
ติดต่อหมายเลข 0-2271-8888 ต่อ 4201-4 หรือสอบถาม 1584
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 (ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล)
ติดต่อหมายเลข ติดต่อหมายเลข 0-2415-7337 ต่อ 204-205
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 (ถนนสวนผัก ตลิ่งชัน)
ติดต่อหมายเลข 0-2433-4773
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 (ถนนสุขุมวิท ตรงข้ามซอยสุขุมวิท 62/1)
ติดต่อหมายเลข 0-2333-0035
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 (ถนนสุวินทวงศ์ หนองจอก)
ติดต่อหมายเลข 0-2543-5512
สำหรับในส่วนภูมิภาค จะมีสำนักงานขนส่งประจำจังหวัด ทุกจังหวัด สามารถดูและเช็กเบอร์โทร. ติดต่อได้ที่ dlt.go.th
มีอีกทางเลือกคือ สอบใบขับขี่กับเอกชนที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก
2. เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการสอบใบขับขี่
- บัตรประชาชนตัวจริง
- สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด
- ใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
- ใบรับรองการอบรม (กรณีผู้ทำการอบรมนอกกรมขนส่ง)
3. ทดสอบสมรรถนะร่างกาย
- ทดสอบตาบอดสี
- ทดสอบสายตาทางลึก
- ทดสอบสายตาทางกว้าง
- ทดสอบการตอบสนองของเท้า
4. การสอบข้อเขียน
เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก จะมอบหนังสือรวมป้ายจราจร และกฎจราจรเบื้องต้นให้อ่าน ก่อนทำการสอบ บางที่จะเป็นบอร์ดให้ยืนอ่านกัน ซึ่งในข้อสอบจะสุ่มป้ายจราจรและกฎจราจรที่เราอ่านมาเป็นข้อสอบ จำนวน 50 ข้อ เป็นข้อสอบแบบปรนัย มีให้เลือก ก-ง จะผ่านเกณฑ์การสอบที่ 45 คะแนน หรือคิดเป็น 90% ของข้อสอบทั้งหมด
ติวป้ายจราจรและสัญลักษณ์จราจรได้ที่ "ป้ายจราจร เครื่องหมายจราจร ที่ผู้ใช้รถควรรู้ไว้"
5. เข้าอบรม สร้างสำนึกการขับรถบนท้องถนน
และหากสอบไม่ผ่านเกณฑ์ ขั้นตอนทั้งหมดจะถูกหยุดลงและให้กลับมาสอบใหม่วันหลัง กำหนดเวลาไว้ไม่เกิน 90 วัน
หากเรามีใบรับรองการอบรมมา จะผ่านเข้าไปสู่การสอบภาคปฏิบัติได้เลย หากไม่มีก็ต้องเริ่มอบรมใช้เวลาทั้งสิ้น 5 ชั่วโมง และบางครั้งจะพบปัญหาห้องอบรมเต็ม ก็ต้องจองคิวทิ้งไว้ *** ในส่วนนี้เราจึงขอแนะนำให้จัดการเรื่องใบรับรองการอบรมมาให้พร้อม จะสะดวกที่สุด
6. สอบภาคปฏิบัติ สอบใบขับขี่รถยนต์ 2560 กำหนดไว้ให้ 3 ด่าน ดังนี้
1. ขับรถเดินหน้าและถอยหลังในทางตรง
ให้ขับรถในช่องเดินรถที่ระยะ 12 เมตร เดินหน้า 1 ครั้ง และถอยหลัง 1 ครั้ง โดยต้องไม่ขับชนหรือเบียดเสาหลัก ที่ตั้งวางเรียงกันทั้งซ้ายและขวา และอย่าให้เครื่องยนต์ดับในขณะทดสอบอยู่
2. ขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้า
ด้านซ้ายของตัวรถต้องจอดขนาน และห่างจากขอบทางไม่เกิน 25 ซม. โดยจอดให้ล้อหน้าและหลัง ล้อทับเส้นสีที่กำหนด กันชนหน้ารถต้องไม่เกินจุดหยุดรถข้างทางและห่างจากเส้นหยุดรถไม่เกิน 1 เมตร
3. ขับรถถอยเข้าซอง
ให้ขับรถถอยหลังเข้าจอดและออกจากช่องว่างด้านซ้าย เปลี่ยนเกียร์ได้ไม่เกิน 7 ครั้ง ต้องไม่ชนหรือเบียดเสาในพื้นที่ที่กำหนด ตัวรถต้องขนานกับขอบทางหรือเสาหลักด้านซ้าย กระจกข้างต้องไม่ล้ำออกมาเกินเส้นที่กำหนด
ด่านนี้มือใหม่มักจะสอบตกมากที่สุด ควรทดสอบฝึกฝนก่อนมาสอบ สำหรับรถที่มีกล้องถอยหลังและเซ็นเซอร์ถอยหลัง จะถูกเอาเทปกาวปิดทับ เพื่อได้ใช้ทักษะการขับรถเท่านั้น
เราก็มีวิธี "วิธีจอดรถเข้าซอง พร้อมภาพเข้าใจง่าย มือใหม่ก็ไม่พลาด" มาฝาก
7. ชำระค่าธรรมเนียมและถ่ายรูปติดบัตร
มีค่าคำขอ 5 บาท, ค่าใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 200 บาท, ค่าซองใส่ใบขับขี่ 100 บาท (แจ้งไม่รับก็ได้) รวมทั้งสิ้น 305 บาท
จบสำเร็จ ได้ใบขับขี่รถยนต์สมดั่งใจหมาย หากไม่ติดขั้นตอนอะไรสามารถจบทั้งหมดได้ภายในวันเดียว เคล็ดลับสำคัญคือมีใบรับรองการอบรม ที่เหลืออยู่ที่การเตรียมความพร้อมของเราเองล้วน ๆ เลยครับ
เลือกซื้อ ประกันรถยนต์ ประกันรถยนต์ชั้น 1จากทิพยประกันภัยง่ายๆ คลิกเลย!!
ปล. กดติดตาม เพจ ทิพยประกันภัย แล้วคุณจะไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียล อินทุกกระแส ครับ
ที่มา : kapook.com