ทำประกันรถยนต์แบบระบุชื่อไว้ แต่คนอื่นขับไปชน แบบนี้เคลมได้หรือเปล่า?
จำนวนผู้เข้าชม : 14
ทำประกันรถยนต์แบบระบุชื่อไว้ แต่คนอื่นขับไปชน แบบนี้เคลมได้หรือเปล่า?

หลายบ้านน่าจะเคยเจอสถานการณ์ รถเป็นชื่อเรา แต่คนขับจริงอาจเป็นแฟน เพื่อน พ่อแม่ หรือคนในครอบครัว แล้วบังเอิญขับไปชนแบบไม่ทันตั้งตัว สิ่งที่หลายคนมักกังวลตามมาทันทีคือ เอ๊ะ! ประกันที่ทำไว้แบบระบุชื่อ จะเคลมได้ไหม?
คำถามนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก เพราะหลายคนเลือกทำประกันแบบระบุชื่อผู้ขับเพื่อให้ค่าเบี้ยถูกลง แต่พอถึงเวลาจริงกลับไม่แน่ใจว่า หากคนอื่นขับแทนแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ความคุ้มครองจะยังครอบคลุมอยู่หรือไม่
ความจริงแล้ว การเคลมจะได้หรือไม่ได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในกรมธรรม์ที่หลายคนมักไม่ได้อ่านให้ละเอียดตั้งแต่แรก ซึ่งอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด และทำให้เสียสิทธิ์โดยไม่รู้ตัว
TIPINSURE จะพาไปดูแบบชัดๆ ว่า
- ระบุชื่อไว้แล้ว…ให้คนอื่นขับได้ไหม?
- ขับแทนกันได้ในกรณีไหนบ้าง?
- ประกันจะจ่ายก็ต่อเมื่อมีเงื่อนไขอะไร?
- มีวิธีป้องกันไม่ให้เสียสิทธิ์เคลมอย่างไร?
อ่านจบแล้วจะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นว่าใครขับรถเรา ก็ยังอุ่นใจได้เสมอ ถ้าเข้าใจเงื่อนไขประกันอย่างถูกต้อง
ประกันรถยนต์แบบระบุชื่อคืออะไร?
ประกันรถยนต์แบบ ระบุชื่อผู้ขับขี่ คือประกันที่เจ้าของรถต้องแจ้งชื่อผู้ขับที่ใช้งานรถเป็นประจำ 1–2 คนไว้ในกรมธรรม์อย่างชัดเจน หากเกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับต้องตรงกับชื่อในเอกสารจึงจะได้รับความคุ้มครองเต็มจำนวน
ประกันลักษณะนี้ช่วยให้บริษัทประกันประเมินความเสี่ยงได้ง่ายขึ้น ทำให้ ค่าเบี้ยประกันถูกกว่าแบบไม่ระบุชื่อ เหมาะสำหรับบ้านที่มีคนขับรถเพียง 1–2 คน เช่น คู่สามีภรรยา หรือลูกเป็นคนขับหลักเพียงคนเดียว ข้อดีคือประหยัดค่าเบี้ย และยังคงคุ้มครองครบเหมือนกรมธรรม์ปกติทุกประการ
ประกันแบบระบุชื่อ ต่างจาก ไม่ระบุชื่อ อย่างไร? ทำไมหลายคนเลือกใช้?
ประกันรถยนต์แบบ ไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ คือประกันที่ใครก็สามารถขับรถคันนั้นได้ และยังคงได้รับความคุ้มครองเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของรถ คนในครอบครัว หรือเพื่อนที่ยืมรถไปใช้
ส่วนประกันแบบ ระบุชื่อผู้ขับขี่ จะจำกัดเฉพาะคนที่ลงชื่อไว้เท่านั้น หากคนอื่นขับแทน ความคุ้มครองอาจไม่เหมือนเดิมหรืออาจถูกเรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรกเพิ่มเติม
ข้อแตกต่างหลัก
- ระบุชื่อผู้ขับ: เบี้ยถูกกว่า แต่ต้องขับตามชื่อที่แจ้ง
- ไม่ระบุชื่อ: เบี้ยแพงกว่า แต่ใครขับก็คุ้มครอง
ทำไมหลายคนเลือกแบบระบุชื่อ?
- ต้องการประหยัดค่าเบี้ย โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้ขับหลักเพียงคนเดียว
- ใช้รถคนเดียวหรือคู่ชีวิตเป็นผู้ขับประจำ จึงไม่จำเป็นต้องให้ใครขับแทน
- เหมาะกับรถที่มีการใช้งานเฉพาะ เช่น รถทำงาน รถส่วนตัวที่ไม่ให้ใครยืม
โดยรวมแล้วแบบระบุชื่อจะคุ้มค่ามาก ถ้าผู้ขับเป็นคนเดิมเสมอ
ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่ได้เป็นชื่อผู้ขับที่ระบุไว้ จะเกิดอะไรขึ้น? จะยังเคลมได้ไหม?
กรณีเกิดอุบัติเหตุแล้ว คนขับไม่ตรงกับชื่อที่ระบุในกรมธรรม์ ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกัน แต่โดยทั่วไปจะเกิด 3 เหตุการณ์ต่อไปนี้
1. ยังคุ้มครอง แต่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) เพิ่มขึ้น
บริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองเหมือนเดิม แต่จะเรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรกเพิ่ม โดยเฉพาะกรณีผู้ขับอายุน้อยกว่า 25 ปี หรือไม่ใช่คนที่ลงชื่อไว้ อาจต้องจ่ายเพิ่ม 2,000–5,000 บาท ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท
2. เคลมได้ แต่จ่ายไม่เต็มจำนวนในบางกรณี
หากเงื่อนไขระบุชัดเจนว่า ต้องเป็นผู้ขับตามรายชื่อเท่านั้น บริษัทอาจคุ้มครองเฉพาะบางส่วน หรือหักค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก่อนอนุมัติซ่อม
3. อาจถูกปฏิเสธความคุ้มครอง หากผิดเงื่อนไขร้ายแรง
ถ้ากรมธรรม์ระบุชัดเจนว่าคุ้มครองเฉพาะผู้ที่ลงชื่อไว้เท่านั้น และรถถูกนำไปใช้โดยบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต บริษัทอาจพิจารณาปฏิเสธการเคลมได้
ดังนั้น หากบ้านไหนมีคนใช้รถร่วมกันหลายคน ควรพิจารณาเพิ่มชื่อผู้ขับ หรือเลือกประกันแบบ ไม่ระบุชื่อ เพื่อป้องกันปัญหาเคลมไม่ได้ในอนาคต
เทคนิคง่ายๆ ป้องกันปัญหาเคลมไม่ได้จากการยืมรถใช้
การให้คนอื่นยืมรถไปใช้ แม้จะเป็นเรื่องปกติในหลายครอบครัว แต่ก็อาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องการเคลมประกันได้ หากชื่อผู้ขับไม่ตรงตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ ดังนั้นก่อนจะส่งกุญแจให้ใครไปขับ ลองทำตามเทคนิคง่ายๆ เหล่านี้เพื่อป้องกันการเสียสิทธิ์
1. เพิ่มชื่อผู้ขับในกรมธรรม์
ถ้ารู้ว่าในบ้านมีคนขับสลับกันหลายคน เช่น ลูก แฟน หรือคนในครอบครัว การเพิ่มชื่อผู้ขับถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ค่าเบี้ยเพิ่มไม่มาก แต่ช่วยให้ทุกคนได้รับความคุ้มครองเต็มจำนวน
2. แจ้งบริษัทประกันก่อน ถ้ามีการใช้รถต่างจากเดิม
กรณีมีเหตุจำเป็น เช่น ต้องให้คนอื่นขับเป็นครั้งคราว ลองโทรแจ้งบริษัทประกันเพื่อสอบถามเงื่อนไขก่อน ป้องกันความเข้าใจผิดเวลาเคลม
3. หลีกเลี่ยงการให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 25 ปีขับ หากไม่ได้ลงชื่อไว้
เพราะส่วนใหญ่บริษัทประกันจะคิดค่าเสียหายส่วนแรกสูงกว่าปกติ การแจ้งชื่อผู้ขับที่อายุยังน้อยไว้ตั้งแต่แรกจะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก
4. ทำประกันแบบไม่ระบุชื่อ หากรู้ว่ารถถูกใช้ร่วมกันเป็นประจำ
ถึงแม้ค่าเบี้ยจะสูงกว่า แต่แลกกับความสบายใจว่าใครก็ขับได้ และยังคุ้มครองเต็มจำนวน เหมาะมากกับบ้านที่ใช้รถร่วมกันหลายคน
5. ทำความเข้าใจเงื่อนไขกรมธรรม์ทุกปี
เวลาต่ออายุประกันควรอ่านเงื่อนไขใหม่ให้ละเอียด เพราะแต่ละบริษัทอาจมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องผู้ขับที่อนุโลม รวมถึงค่า Deductible ที่เพิ่มขึ้นหากผู้ขับไม่ตรงชื่อ
เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้คุณใช้รถร่วมกันได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าเวลาต้องเคลมจะมีปัญหาตามมา
ประกันแบบระบุชื่อดีจริง แต่ต้องเข้าใจเงื่อนไขก่อนให้ใครขับรถแทน
การทำประกันรถยนต์แบบระบุชื่อผู้ขับเป็นตัวเลือกที่ประหยัดและคุ้มค่า หากรถมีผู้ขับหลักเพียง 1–2 คน แต่เมื่อไหร่ที่มีคนอื่นขับแทน ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน หรือเป็นเหตุจำเป็น เงื่อนไขของประกันจะกลายเป็นสิ่งสำคัญทันที ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีคำตอบตายตัวว่าแบบไหนดีที่สุด แต่ความเหมาะสมกับการใช้งานจริง คือกุญแจสำคัญที่สุดของการเลือกประกันรถยนต์
มองหาประกันที่เข้าใจทุกสไตล์การขับรถ เลือกทิพยประกันภัย ถ้าคุณกำลังลังเลว่าจะเลือกประกันแบบระบุชื่อหรือไม่ระบุชื่อดี หรือกำลังอยากได้แผนที่ครอบคลุมเวลามีหลายคนใช้รถร่วมกันในบ้าน ทิพยประกันภัยมีตัวเลือกประกันให้เลือกครบตามรูปแบบการใช้งานจริงของคุณ ไม่ว่าจะเป็น
- ประกันชั้น 1 คุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี
- ประกันไม่ระบุชื่อผู้ขับ สำหรับบ้านที่ใช้รถร่วมกันหลายคน
- ค่าเบี้ยยืดหยุ่น เลือกได้ตามงบประมาณ
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
- เครือข่ายอู่–ศูนย์ซ่อมคุณภาพทั่วประเทศ
- เคลมง่าย บริการจริงใจ รวดเร็ว
เพราะอุบัติเหตุไม่มีใครคาดเดาได้ แต่ประกันที่ดีช่วยลดความกังวลได้เสมอ ให้ทิพยประกันภัยดูแลทุกช่วงเวลาบนถนนของคุณ สอบถามรายละเอียดได้ที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736