สมเด็จพระอนุชาธิราช
จำนวนผู้เข้าชม : 414

สมเด็จพระอนุชาธิราช
ในช่วงทศวรรษที่ ๒ แห่งพระชนม์ชีพนี้ มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวงในพระชะตา กล่าวคือหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ แห่งราชจักรีวงศ์ ทรงสละราชสมบัติ เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๔๗๗ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล ทรงได้รับการอัญเชิญขึ้นเป็นยุวกษัตริย์
ปีต่อมา “พระองค์เล็ก” ทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็น “สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช”
ทรงเข้าศึกษาชั้นมัธยมศึกษา ณ เอกอล นูแวล เดอ ลา ซืออิส โรมองด์ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงฉลองพระเนตรขณะพระชนมายุยังไม่เต็ม ๑๐ พรรษา จากนั้นทรงศึกษาต่อจนได้รับประกาศนียบัตรทางด้านอักษรศาสตร์จากยิมนาส คลาสสิก กังโตนาล แห่งโลซาน แล้วทรงเข้าศึกษาต่อในสาขาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยโลซาน
ระหว่างที่ทรงศึกษาอยู่นั้น ทรงเล่นคล้ายเด็กทั่วไป สิ่งที่ทรงสนพระราชหฤทัยในวัยเยาว์ ได้ฉายแววพระอัจฉริยภาพออกมาในด้านต่างๆ ดังเช่นที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงบันทึกไว้ว่า
“...ทางด้านการช่างต่างๆ จะเป็นด้านช่างกล ช่างไฟฟ้า หรือช่างวิทยุ ก็มีความเข้าใจตั้งแต่เล็กๆ...วันหนึ่งแม่เห็นพระอนุชาเล่นรถคันใหม่อยู่ เมื่อทราบว่าแหนน (พระพี่เลี้ยงชื่อเนื่อง จินตดุลย์) เป็นผู้ให้ ก็ถามไปว่า “ทำไม่จึงทำเช่นนี้” แหนนก็ตอบว่า “มาแก้จักรเย็บผ้าให้ จึงต้องให้รางวัล”
ปลายปี พ.ศ.๒๔๘๑ ได้โดยเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เสด็จนิวัตเมืองไทยเป็นครั้งที่ ๒ เป็นการชั่วคราว ก่อนจะเสด็จฯกลับไปประทับที่สวิตเซอร์แลนด์ และเสด็จฯกลับเมืองไทยอีกครั้ง ในปลายปี พ.ศ.๒๔๘๘ สมเด็จพระอนุชาธิราชได้ตามเสด็จพระบรมเชษฐาธิราชไปยังที่ต่างๆด้วยความร่าเริงแจ่มใส เต็มไปด้วยความสนพระทัยต่อทุกสิ่ง พระหัตถ์จะทรงถือกล้องถ่ายรูป ตามถ่ายพระรูปพระเชษฐาธิราช ประดุจเงาติดตามพระองค์ เป็นที่น่ารักชื่นชมของผู้ที่ได้พบเห็น
แต่แล้วเช้าของวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๙ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอนันทมหิดล เสด็จสวรรคตโดยกระทันหัน จึงทรงได้รับการอัญเชิญให้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติสืบราชสันตติวงศ์ เมื่อพระชนมายุเพียง ๑๘ พรรษาเศษ
ข้อมูล : เรียบเรียงจากสมุดตราไปรษณียากรพิเศษ “ดั่งดวงแก้วแห่งแผ่นดิน”